ข่าว

ตร.จับหนุ่มญี่ปุ่นขนชิ้นส่วนอาวุธคาด่านดอนเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รวบหนุ่มญี่ปุ่นคาสนามบินดอนเมืองขนยุทธภัณฑ์เตรียมนำกลับประเทศ อ้างซื้อจากเวียดนามเป็นของสะสม ยันใช้การไม่ได้แล้ว ไม่รู้ผิดกฎหมายไทย ตร.แจ้ง 3 ข้อหา

          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานดอนเมือง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยว่า พบชายชาวญี่ปุ่นนำเครื่องยุทธภัณฑ์ประเภทแมกกาซีนปืนเอ็ม 16 และวัตถุระเบิด เตรียมขึ้นเครื่องบินโดยมีจุดหมายปลายทางที่ประเทศญี่ปุ่น จึงเข้าตรวจสอบพบว่าชายชาวญี่ปุ่นรายนี้ทราบชื่อคือนายฮิราโนะ ทาเครุ อายุ 28 ปี ถือหนังสือเดินทางประเทศญี่ปุ่นเลขที่ TK 6983130 กำลังจะเดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยนำกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องเอกซเรย์ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พบแมกกาซีนปืน จึงได้ขอตรวจสอบพบแมกกาซีนและเครื่องยุทธภัณฑ์ต่างๆ จำนวนมาก 

ตร.จับหนุ่มญี่ปุ่นขนชิ้นส่วนอาวุธคาด่านดอนเมือง
 

          จากการสอบสวนเบื้องต้น นายฮิราโนะ ให้การว่า เดินทางจากญี่ปุ่นไปท่องเที่ยวที่เวียดนามและได้พบเห็นชิ้นส่วนซองกระสุนปืนเอเค หรืออาก้า และซองกระสุนปืนเอ็ม 16 เห็นว่าสวยดีจึงซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นของสะสม และได้เดินทางมาที่ประเทศไทยต่อ โดยก่อนขึ้นเครื่องได้สอบถามสายการบินแล้วทางสายการบินตอบว่าสามารถนำชิ้นส่วนซองอาวุธเหล่านี้ขึ้นเครื่องได้ จึงได้นำขึ้นเครื่องเข้ามายังประเทศไทยโดยนั่งเครื่องมาลงที่ดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน และท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยจนถึงวันนี้(9 พ.ค.) ถึงกำหนดกลับประเทศญี่ปุ่น จึงได้นำชิ้นส่วนเหล่านี้กลับไปเป็นที่ระลึกที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย แต่ก็มาถูกจับกุมดังกล่าว


ตร.จับหนุ่มญี่ปุ่นขนชิ้นส่วนอาวุธคาด่านดอนเมือง

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี ระบุว่า ยุทธภัณฑ์ที่ตรวจเป็นชิ้นส่วนประกอบกับระเบิดแบบเคลย์มอร์(เคโม)ที่ไม่มีดินระเบิดและเชื้อปะทุ ส่วนซองบรรจุกระสุนก็ไม่สามารถใช้งานได้จึงไม่มีอันตรายใดๆ โดยของกลางที่ยึดได้ ประกอบด้วย ทุ่นระเบิดสังหารแบบบุคคล หรือเคลย์มอร์ M18A1 ไม่มีดินระเบิด 1 ทุ่น ตัวจุดระเบิด M57 1 EA แมกกาซีน ไม่มีสปริง รวม 23 แม็ก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายฮิราโนะไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

          นายสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เปิดเผยว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายต้องสงสัยถือพาสปอร์ตสัญชาติญี่ปุ่น ทราบชื่อคือ นายฮิราโนะ ทาเครุ โดยได้ควบคุมตัวเอาไว้เนื่องจากตรวจพบส่วนประกอบระเบิดในกระเป๋าเดินทางขณะเดินผ่านช่องตรวจ ซึ่งการพบยุทธภัณฑ์ดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่ามีรังเพลิงกระสุนปืนอาก้าและแมกกาซีนปืนไรเฟิลรวมทั้งชิ้นส่วนของระเบิดเคลย์มอร์ โดยทั้งหมดถูกถอดแยกชิ้นส่วนและใช้การไม่ได้แล้ว ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่าซื้อมาจากประเทศเวียดนามเพื่อนำไปฝากเพื่อนที่ประเทศญี่ปุ่น โดยชายดังกล่าวได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยก่อนหน้านี้หลายวันแล้วและกำลังจะกลับญี่ปุ่นในวันนี้ 

          ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. เปิดเผยว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชายญี่ปุ่นเอาไว้สอบสวน และเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายไทย เนื่องจากส่วนประกอบอาวุธที่พบถือเป็นยุทธภัณฑ์ที่ห้ามมีไว้ครอบครอง ผิดคำสั่ง คสช. ซึ่งจะต้องดำเนินคดีในศาลทหารต่อไป

ตร.จับหนุ่มญี่ปุ่นขนชิ้นส่วนอาวุธคาด่านดอนเมือง
 

          เบื้องต้นแจ้ง 3 ข้อหา มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ไว้ในครอบครอง พกวัตถุอันตรายไปในท่าอากาศยานฯ และนำเข้ายุทธภัณฑ์ไม่มีใบอนุญาต 


ตร.จับหนุ่มญี่ปุ่นขนชิ้นส่วนอาวุธคาด่านดอนเมือง
 

          ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า อยู่ในระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อยู่ว่าเข้ามาจากทางไหนและจะได้ประสานกรมศุลกากรว่านำเข้ามาจริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้นำเข้ามาก็ไม่ตรงตามที่ผู้ต้องหาให้การ เพราะมีเครื่องเอกซเรย์บันทึกไว้ทั้งหมด ต้องไล่ตรวจสอบจนได้ความชัดเจนว่ามาจากไหนกันแน่ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การไว้อย่างไรเราก็รับฟังส่วนหนึ่ง แต่ในหลักกฎหมายไทยใช้ไม่ได้

          “ของกลางที่ยึดได้เป็นสิ่งของที่ใช้ไม่ได้ ไม่มีอันตราย เพียงแต่ว่าเป็นยุทธภัณฑ์ ส่วนประวัติของผู้ต้องหาเป็นนักท่องเที่ยว ไม่มีแบล็กลิสต์ เคยเดินทางเข้าไทยมาแล้ว 3 ครั้ง แต่อีกด้านเจ้าหน้าที่ก็อยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลและประสานกับฝ่ายข่าวกรองทางทหารให้ดำเนินการตรวจสอบ เบื้องต้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายไอเอส เพราะไม่มีอะไรผิดปกติในส่วนนี้” พล.ต.อ.ศรีวราห์ระบุ

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหารายนี้ พบว่า เคยเข้า-ออกประเทศไทย 3 ครั้ง และไม่ใช่กลุ่มอาชญากรข้ามชาติ เนื่องจากเมื่อทำการตรวจสอบไม่มีประวัติโทษคดีอาญาแต่อย่างใด

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ