ข่าว

"บิ๊กแป๊ะ" ชี้ เรี่ยไรซื้อแอร์มีเป็นร้อยโรงพัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จักรทิพย์" จวกหัวหน้าหน่วยไม่ดูแลลูกน้อง กรณีสารวัตรเรี่ยไรเงินตำรวจชั้นผู้น้อยซื้อแอร์ ชี้ให้ดูที่เจตนา เพราะเอามาใช้ส่วนรวม ระบุวิธีแบบนี้ทำเป็นร้อยโรงพัก

          จากกรณี จ.ส.ต.เลอศักดิ์ นนท์ขุนทด ผบ.หมู่ สส.สน.พหลโยธิน นำเอกสารเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หลังถูก พ.ต.ต.ชลากร ปานแดง สว.สส.สน.พหลโยธิน และพ.ต.ต.เอกราช โอมาก สว.สส.สน.พหลโยธิน ใช้อำนาจหน้าที่ในการสั่งหักเงินเบี้ยเลี้ยงจากตำรวจชั้นผู้น้อยจำนวน 11 นาย เพื่อใช้จัดซื้อเครื่องปรับอากาศติดตั้งภายในห้องสืบสวน สน.พหลโยธิน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

\"บิ๊กแป๊ะ\" ชี้ เรี่ยไรซื้อแอร์มีเป็นร้อยโรงพัก
 

          ต่อมาเมื่อเวลา 13.40 น.วันที่ 29 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กก็ไม่เล็ก มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ไม่ใหญ่ เป็นเรื่องการปกครองภายใน ต้องดูเจตนาของสารวัตรด้วยว่าเจตนาดีหรือไม่ดี ถ้าเจตนาดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเจตนาไม่ดีก็ดูไม่ดีว่าไปหักเบี้ยเลี้ยงลูกน้องทำไม เรื่องนี้ผู้กำกับการ (ผกก.) หัวหน้าสถานีต้องไปดูแลลูกน้องอย่างใกล้ชิดด้วย อะไรที่ขาดเหลือต้องดูแล ไม่ใช่ปล่อยลักษณะเรี่ยไรอย่างนี้ ต้องลงไปแก้ไข อุปกรณ์ขาดเหลือก็ต้องเสนอขอมาในระดับ บก. บช. ตามลำดับ

          “แต่ถ้าเหตุเร่งด่วน แอร์เสีย น้ำไม่ไหลเป็นเรื่องปกติ แต่บางทีผู้บังคับบัญชาเด็กๆ อาจอึดอัด สิ่งเหล่านี้พูดจากันได้ในโรงพัก ยิ่งฝ่ายสืบสวนมีไม่กี่คน สามารถพูดจากันได้ ไม่ควรจะไปที่หน่วยอื่น จริงๆ ก็แล้วแต่ ผมไม่ได้ปกป้องใคร แต่ผมอยากให้มองดูที่เจตนา ถ้าทุกคนเห็นว่าแอร์เสีย เอามาใช้ส่วนรวม ไม่ได้เอาไปติดที่ห้องสารวัตรคนเดียว หรือห้อง ผกก. อย่างนี้จะคิดกันอย่างไร หากเอาไปใช้คนเดียวก็ถือว่าไม่ถูกเรื่อง” ผบ.ตร.กล่าว

          เมื่อถามว่า ผบ.ตร.มีความเห็นว่า ไม่ควรไปร้องที่ ป.ป.ท. ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชามีตั้งหลายระดับชั้น ที่จะให้ความเป็นธรรม ตั้งแต่ผกก. รองผบก. ผบก.น.2 หรือไปที่ บช.น.ก็ได้ ผู้บังคับบัญชาจะได้รับรู้ปัญหาด้วย การร้องทุกข์ ร้องเรียนต่อหน่วยอื่นจะมีความผิดตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ให้ผู้บังคับบัญชาในนครบาลไปว่ากันไป ที่ตนบอกไม่ใช่เรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ มองเป็นเรื่องปกติก็ได้

\"บิ๊กแป๊ะ\" ชี้ เรี่ยไรซื้อแอร์มีเป็นร้อยโรงพัก
 

          เมื่อถามว่าการเรี่ยไรเงินในสถานีตำรวจแบบนี้เป็นเรื่องปกติ ธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า อย่าไปเรียกว่าเรี่ยไรเงิน แต่อะไรที่มันเสียต้องซ่อมแซมให้ใช้ได้ โดยไม่สามารถรองบประมาณปกติก็ต้องดำเนินการไป ตนเชื่อว่ามีอยู่หลาย 100 โรงพักที่ดำเนินการลักษณะแบบนี้ ตำรวจในโรงพักช่วยกันระดมทุนแบบนี้ต้องขึ้นอยู่กับหัวหน้าหน่วย บริหารจัดการและทำความเข้าใจ เรื่องนี้ตนขอพูดในภาพรวม แต่จะสั่งให้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เข้าไปดูแล ลักษณะแบบนี้จะเป็นอุทาหรณ์ ก็ขยายความไปในโซเชียลมีเดีย มีการแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา ขยายความไปเรื่อยๆ

          ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตำรวจที่เป็นผู้ไปร้องเรียนอาจจะรู้สึกผิด อึดอัดในการอยู่ในโรงพักก็เป็นเรื่องที่ผบ.ชน.ต้องไปจัดการ อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เกิดความแตกแยก แตกความสามัคคี หน่วยมีกฎระเบียบอยู่แล้ว เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาต้องเอาใจใส่ ตนเน้นย้ำตลอดเรื่องการใช้งบประมาณ เรื่องนี้ไม่ทราบรายละเอียดว่าการเรี่ยไรของผู้บังคับบัญชาเป็นการสมัครใจหรือไม่อย่างไร เรื่องนี้ย้ำว่าตนไม่ก้าวก่าย แต่หากตำหนิ ต้องตำหนิหัวหน้าหน่วย ไม่ตำหนิเด็กอยู่แล้ว

          ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในการปฏิรูปตำรวจต้องการพูดคุยถึงประเด็นเรื่องนี้ในหมวดของสวัสดิการ รัฐบาลนี้ดูแลเต็มที่ในเรื่องงบประมาณ คุรุภัณฑ์ในการทำงาน แล้วคิดที่จะให้ตำรวจทำแบบทหาร ตัวของผู้การกรม ผู้พัน เวลาย้ายไปไหนไม่ต้องย้ายโต๊ะย้ายเก้าอี้ย้ายแอร์ เหมือนตำรวจ วันนี้ตำรวจย้ายทีก็โกลาหล ต้องขนทุกอย่างไปด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เล็งเห็นตรงนี้ ดูว่าจะทำอย่างไรให้ตำรวจเป็นแบบทหารได้หรือไม่ เวลาไปทำงานไปแต่ตัวก็ทำงานได้ ไม่ต้องขนทุกอย่างของส่วนตัวไปเอง

          วันเดียวกันที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี กรรมการป.ป.ท. เปิดเผยความคืบหน้ากรณี จ.ส.ต.เลอศักดิ์ นำเอกสารร้องเรียนเรื่องการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมหลักฐานเป็นข้อความที่แชทผ่านไลน์ ซึ่งระบุถึงคำสั่งของสารวัตรสืบสวน สน.พหลโยธิน 2 นาย ที่สั่งการขอหักเงินเบี้ยเลี้ยงจากตำรวจชั้นผู้น้อย 11 นาย เพื่อใช้จัดซื้อเครื่องปรับอากาศติดตั้งในห้องสืบสวน สน.พหลโยธิน ว่าหลังรับเรื่องร้องเรียน ป.ป.ท.ได้ส่งเรื่องให้สำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 5 ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนจะเรียกตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 11 นายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าการที่จะพิจารณาว่ามีการกระทำที่ทุจริตหรือไม่ต้องดูว่าการกระทำเป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งราชการ หรือกระทำผิดต่อความยุติธรรม ทั้งนี้ยังต้องพิจารณาว่าบุคคลที่ถูกหักเงินถูกผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจหน้าที่เกินหรือไม่ กรณีที่เงินเข้าบัญชีส่วนบุคคลแล้วหากไม่สมัครใจให้ถูกหักเงินก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ใช่เงินขององค์กร

          “กรณีนี้ไม่ควรเป็นกรณีศึกษาและไม่ควรเป็นตัวอย่าง แต่เป็นข้อจำกัดของการทำงาน ซึ่งผู้บริหารหน่วยต้องตรวจสอบตามความจำเป็น โดยองค์กรสามารถตั้งงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างได้ ในเรื่องรถ ลา ม้า ใช้ตั้งเบิกจากงบประมาณได้ ในด้านกฎหมายผมไม่ขอออกความเห็นว่าจะเป็นความผิดหรือไม่ ส่วนการจะรับคดีไว้ไต่สวนหรือไม่ขอให้เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการป.ป.ท. ส่วนตัวมองว่าขอมองที่ระบบคุณธรรมและจริยธรรมของผู้บังคับบัญชามากกว่า” พล.ต.อ.จรัมพร กล่าว

          ทั้งนี้เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 มีนาคม พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ รองผบก.น.2 อดีตผกก.สน.พหลโยธิน ฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงศ์หอมหวล ผกก.สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.เฉลียง อินทิพย์ รองผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.คมสันต์ บดิกาญจน์ รองผกก.สส.สน.พหลโยธิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ชี้แจงการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

\"บิ๊กแป๊ะ\" ชี้ เรี่ยไรซื้อแอร์มีเป็นร้อยโรงพัก
 

          พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยการสอบปากคำตำรวจฝ่ายสืบสวนทั้งสิบนายที่ถูกหักเงินเป็นค่าซื้อแอร์ ต่างให้การสอดคล้องกันว่าให้หักเงินด้วยความสมัครใจ ยกเว้น จ.ส.ต.เลอศักดิ์ นนท์ขุนทด ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน ผู้ร้องเท่านั้นที่ไม่สมัครใจและไม่เห็นด้วย แต่กรณีนี้เป็นเรื่องภายในที่เกิดจากความเข้าใจผิดกัน เชื่อว่าไม่กระทบการทำงานภายใน และยืนยันว่าจะไม่มีการดำเนินการทางวินัยต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดและผู้บังคับบัญชาจะคืนเงินให้แก่ผู้ที่ไม่สมัครใจ

\"บิ๊กแป๊ะ\" ชี้ เรี่ยไรซื้อแอร์มีเป็นร้อยโรงพัก
 

          ด้าน จ.ส.ต.เลอศักดิ์ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนทันทีหลังผู้บังคับบัญชาชี้แจงจบ โดยยืนยันว่าตนเองไม่สมัครใจให้เงินจำนวนดังกล่าวแต่แรก เพราะเงินจำนวนนี้เป็นสิทธิของตนเองที่ได้มาจากเบี้ยเลี้ยงตกเบิกการตั้งด่านความมั่นคงช่วงกลางปีที่แล้ว และที่ผ่านมาไม่เคยถูกหักเงินเป็นค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์ที่ชำรุดในที่ทำงาน และยอมรับเงินเดือนปกติไม่ได้มาก ชีวิตไม่ได้สบาย และยังต้องมาเจอเหตุการณ์บั่นทอนกำลังใจในการทำงานแบบนี้ รู้สึกเสียใจ

          ทั้งนี้ จ.ส.ต.เลอศักดิ์ ยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปตามที่ได้ร้องเรียนไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนชีวิตการทำงานหลังจากนี้ยอมรับกังวลใจในบรรยากาศการทำงานและกำลังพิจารณาโยกย้ายปรับเปลี่ยนการทำงานหรืออาจลาออกจากอาชีพข้าราชการตำรวจ

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ