ข่าว

"เปรมชัย"เจอเพิ่ม3ข้อหา"ปืน-งาช้าง-สินบน"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“เปรมชัย” อ่วม เจออีก 3 ข้อหา “ปืน-งาช้าง-สินบน” "ศรีวราห์"เผยเจ้าสัวเดินทางต่างประเทศ 10 มี.ค.ไม่กระทบคดี ด้านกลุ่มศิลปินวาดภาพกราฟฟิตี้ตรงข้ามตึกอิตาเลียนไทย

     ความคิืบหน้าคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าล่าสัตว์ป่าในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ถูกดำเนินคดี 9 ข้อหาตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายเปรมชัยร่วมครอบครองงาช้างผิดกฎหมายที่ยึดมาจากบ้านพัก และเตรียมเรียกภรรยาของนายเปรมชัยรับทราบข้อหาครอบครองงาช้างดังกล่าวด้วยนั้น

     ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 10.40 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  (บช.ภ.7) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(รอง ผบก.ปปป.) พร้อมคณะได้เดินทางมาที่ บช.ภ.7 เพื่อประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนเร่งรัดคดีนายเปรมชัยกับพวกล่าสัตว์ป่า

     พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยภายหลังตรวจสำนวนคดีว่า จนถึงขณะนี้คณะทำงานพบความผิดของนายเปรมชัยแล้ว 9 ข้อหา และเตรียมแจ้งเพิ่มข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมอีก ประกอบด้วย ครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนหรืองาช้างผิดกฎหมาย, ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และข้อหาพยายามติดสินบนเจ้าพนักงาน รวมอีก 3 ข้อหา ส่วนข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานอุทยานฯ เข้าไปตั้งแคมป์และล่าสัตว์ในพื้นที่หวงห้ามยังต้องรอการสอบปากคำเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในช่วงบ่ายก่อนว่าทางอุทยานฯ จะร้องทุกข์กล่าวโทษในประเด็นนี้หรือไม่

     “วันนี้มาติดตามเพื่อเร่งรัดสำนวนคดีและเก็บรายละเอียดต่างๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนทุกข้อหา ทั้งเรื่องอาวุธปืนและร่วมกันครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย ก่อนส่งฟ้องพนักงานอัยการให้ทันภายในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ส่วนวันที่ 14 มีนาคมที่จะถึงนี้ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ให้นายเปรมชัยและภรรยาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่ บก.ปทส. กรณีครอบครองงาช้างผิดกฎหมายและอาวุธปืน ถ้าหากไม่มาก็จะต้องมีการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 และจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”

     ส่วนกรณีที่มีรายงานว่านายเปรมชัยมีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศในวันที่ 10 มีนาคม นั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์นายเปรมชัยสามารถทำได้ เพราะไม่อยู่ในเงื่อนไขการประกันตัวของศาล และนายเปรมชัยได้แจ้งมาที่เจ้าหน้าที่แล้ว แต่ไม่ได้แจ้งจุดหมายและกำหนดกลับ จึงได้สั่งการให้สตม.ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางไว้ว่านายเปรมชัยเดินทางไปที่ใด ยืนยันว่าการเดินทางออกนอกประเทศจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินคดีใน 9 ข้อหาแรก เนื่องจากเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาและเจ้าหน้าที่ส่งฝากขังต่อศาลและอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว

     มีรายงานแจ้งว่า การเดินทางของนายเปรมชัยไปต่างประเทศได้ทำหนังสือถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยแจ้งกำหนดการเดินทางโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวออกจากประเทศไทยในวันที่ 10 มีนาคม จากสนามบินดอนเมืองไปยังประเทศบังกลาเทศ ในเวลา 09.00 น. โดยมีลูกเรือ 2 คน และผู้โดยสารอีกจำนวน 4 คน กำหนดเดินทางกลับมาในวันที่ 11 มีนาคม ในช่วงเวลาประมาณ 17.30 น.

     เวลา 12.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายถิรเดช ปาละสุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าหรือชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายนุวรรต ลีลาพตะ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการและรองหัวหน้าชุดเหยี่ยวดง ได้เดินทางมารับงาช้าง จำนวน 2 คู่ ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดได้จากบ้านพักของนายเปรมชัย ผู้ต้องหาคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก โดยมี พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน ผกก.1 บก.ปทส. เป็นผู้ส่งมอบ

     สำหรับการส่งมอบงาช้างสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำงาช้างของกลางไปตรวจวัดขนาดและตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงดีเอ็นเอจนสามารถยืนยันได้ว่าเป็นงาช้างแอฟริกา จึงนำไปเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานทางคดี ก่อนที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยาของนายเปรมชัย ในข้อหามีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(งาช้างแอฟริกา)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนายเปรมชัย กับ น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นผู้เซ็นชื่อรับรองว่าเป็นงาช้างบ้าน ในข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ภายหลังการรับมอบเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดขนาดและอัตลักษณ์ของงาช้างทั้ง 2 คู่ โดยเก็บไว้ที่ บก.ปทส.

     นายถิรเดช กล่าวยืนยันว่า งาช้างดังกล่าวเป็นของกลางที่พบภายในบ้านของนายเปรมชัย หลังจากนี้จะนำไปเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานที่กรมอุทยานฯ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ทั้งนี้จากการตรวจสอบใบอนุญาตการครอบครองงาช้างดังกล่าว พบว่าเป็นการแจ้งครอบครองงาช้างบ้านที่เป็นสัตว์พาหนะ เมื่อพิสูจน์ออกมาแล้วพบว่าเป็นงาช้างแอฟริกาจึงไม่ตรงกัน โดยนางคณิตา ภรรยาของนายเปรมชัย ได้มอบอำนาจให้บุคคลคนหนึ่งมาแจ้งว่างาช้างดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ได้จากมรดกจึงมาแจ้งครอบครองไว้ แต่เป็นการยื่นเพียงคำขอไม่ได้นำงาช้างมาด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอเข้าตรวจสอบตามลำดับ แต่ยังไม่ถึงลำดับคิวที่จะตรวจสอบงาช้างคู่ดังกล่าว จนกระทั่งมีการตรวจพบที่บ้านพักของนายเปรมชัย เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯจึงแจ้งดำเนินคดีกับนางคณิตา ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า รวมถึงนายเปรมชัย และ น.ส.วันดี ซึ่งเป็นผู้เซ็นชื่อรับรองเป็นพยานว่าเป็นงาช้างบ้าน 

     พ.ต.อ.มงคล กล่าวว่า ขณะนี้มี 3 บุคคลที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา คือ นางคณิตา นายเปรมชัย และ น.ส.วันดี โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบประวัติ น.ส.วันดี ว่าเป็นข้าราชการ พนักงานบริษัทเอกชน หรือมีการรู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายเปรมชัยหรือไม่ โดยได้นัดให้นายเปรมชัย พร้อมนางคณิตา และน.ส.วันดี เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 14 มีนาคมนี้

     ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีสังคมกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งรัดดำเนินคดีนายเปรมชัยและพวกว่า ให้เป็นเรื่องของตำรวจที่จะหาพยานหลักฐานให้เป็นไปตามกฎหมาย หาให้หมดทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้รู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ส่วนกระแสสังคมถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยืนยันไม่มีใครไปช่วยเหลือนายเปรมชัย รับรองได้ ตำรวจต้องทำไปตามพยานหลักฐาน ทั้งนี้การแสดงออกต่างๆ ของประชาชน เช่น พ่นกราฟฟิตี้รูปเสือดำก็ไม่รู้จะห้ามประชาชนอย่างไร เมื่อถามว่า กระแสสังคมกดดันให้เปลี่ยนตัว พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในฐานะหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดีนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ศรีวราห์เขาทำงานดี ที่ผ่านมาทั้งหมด และเขาเป็นคนตรงไปตรงมา แต่คำพูดอาจจะพูดจานั่นหน่อย แต่ตอนนี้ไม่มีแนวโน้มอะไรที่จะเปลี่ยน และคดีจะจบแล้ว”

"เปรมชัย"เจอเพิ่ม3ข้อหา"ปืน-งาช้าง-สินบน"

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.30 น. ที่บริเวณกำแพงร้านอะไหล่ยนต์ ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เยื้องอาคารสำนักงานใหญ่ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กลุ่ม a CALL for Animal Rights Thailand จัดทำโปรเจกท์ “Graffiti จับคู่กำแพงกับศิลปิน” โดยนำศิลปินกราฟฟิตี้พ่นสีบนกำแพงเป็นรูปเสือดำที่บริเวณกำแพงร้านดังกล่าว โดย น.ส.ปิยวรรณ ตั้งสกุลสถาพร แอดมินเพจ เปิดเผยว่า โปรเจกท์ดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกรักสัตว์ป่าและธรรมชาติ สะท้อนความยุติธรรมของสังคมปัจจุบัน ปฏิเสธการไล่ล่าฆ่าสัตว์เพื่อความพึงพอใจส่วนบุคคล และปฏิเสธอภิสิทธิชนที่อยู่เหนือกฎหมาย ผ่านงานศิลป์อันประณีตบนกำแพง อันเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิดอย่างอารยชน ทั้งนี้ เจ้าของบ้านหรือเจ้าของพื้นที่ได้แสดงประสงค์มาทางเพจซึ่งจะจัดศิลปินไปพ่นสีบนกำแพงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมามีการพ่นสีในที่สาธารณะและทำให้ผลงานถูกลบไป ดังนั้นเมื่อผลงานถูกทำขึ้นในที่ส่วนบุคคลที่ได้รับการอนุญาตใครก็ไม่สามารถมาลบได้ ส่วนเหตุผลที่มาจัดโปรเจกท์ที่บริเวณนี้เนื่องจากอยู่ใกล้บริษัทอิตาเลียนไทยฯ จึงอยากให้เป็นแลนด์มาร์ค

     ด้านนายทศพร กลั่นแก้ว ศิลปินเจ้าของผลงาน กล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเงียบหายไป อยากให้มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ในฐานะเป็นศิลปินสิ่งที่ทำได้ก็คือทำงานศิลปะออกมาเพื่อสื่อไปถึงประชาชนได้ตระหนักว่าเรื่องดังกล่าวมีการดำเนินการไปถึงขั้นไหน ส่วนกรณีภาพกราฟฟิตี้ที่ถูกลบไปก่อนหน้านี้คิดว่าบางที่อาจเป็นเพราะหน่วยงานรัฐคิดว่าสิ่งที่พวกเราทำนั้นเข้าข่ายไปในเรื่องการเมืองหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องของประเทศ เรื่องของสิ่งแวดล้อมเรื่องของความสำคัญของทรัพยากร

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กลุ่มศิลปินจัดกิจกรรมได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.มักกะสัน สังเกตการณ์ก่อนเข้าสอบถามว่าการพ่นสีบนกำแพงได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านหรือไม่ จากนั้นได้เข้าไปสอบถามเจ้าของบ้านก็ได้รับการยืนยันจากเจ้าของบ้านว่าอนุญาตให้ทำกิจกรรมได้จึงได้เดินทางกลับไป นอกจากนี้ช่วงสายของวันเดียวกันได้มีมือดีนำแผ่นป้ายรูปเสือดำร้องไห้ไปวางหน้าสำนักงานใหญ่ บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่อาคารได้เก็บแผ่นป้ายเสือดำดังกล่าวออกไป

     มีรายงานแจ้งว่า นอกจากการใช้กราฟฟิตี้ในการรณรงค์ดำเนินคดีคดีฆ่าเสือดำอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ยังมีแคมเปญที่มีแนวร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเราของ น.ส.ชลลดา เมฆราตรี หรือเก๋ ได้เชิญชวนทุกคนร่วมแสดงสัญลักษณ์แห่งความเป็นธรรมโดยโพสต์ภาพตัวเองพร้อมมือซ้ายที่ใช้เป็นสัญลักษณ์แทนหัวใจพร้อมทำเครื่องหมายกากบาทบนมือซ้าย ไม่ยอมรับความไม่เสมอภาคและสองมาตรฐาน โดยมีบรรดาเซเลบในเมืองไทยร่วมโพสต์ภาพชูมือซ้ายพร้อมเครื่องหมายกากบาทกันคึกคัก อาทิ นางชลิดา ตันติพิภพ, นางคริสติน่า เศรษฐบุตร, น.ส.สุนันท์ษา จิรมณีกุล เป็นต้น

     วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ตรวจสอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย กรณีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. และ พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตร ผกก.สภ.ทองผาภูมิ สั่งการให้ตรวจสอบเอาผิดและมีคำสั่งเรื่องลงโทษภาคทัณฑ์ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ หลังจากที่ปศุสัตว์กาญจนบุรีเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนายเปรมชัยในฐานความผิดกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งต่อมาได้มีการถอนแจ้งความไปแล้ว แต่เป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวต้องถูกลงโทษทางวินัยให้ถูกภาคทัณฑ์ จากข้ออ้างที่ว่าไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายและรับคำร้องทุกข์ไปโดยไม่ถูกต้องนั้น ทางสมาคมมองว่าเป็นการใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการในการออกคำสั่ง จึงอาจเป็นการลงโทษทางวินัยที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอาจขัดหรือแย้งต่อกฎก.ตร.ว่าด้วยวิธีการออกคำสั่งเกี่ยวกับการลงโทษ พ.ศ.2547 ข้อ 3 วรรคท้าย และคำสั่งลงโทษดังกล่าวกลับไม่ระบุมาตราหรืออนุมาตราไว้แต่อย่างใด จึงน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยวินัยตำรวจ ดังนั้น จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็ว

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ