หนุ่มถูกกดดันลั่นไกจบชีวิตตัวเองเซ่นวาเลนไทน์หลังยิงพ่อตาดับ

     วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 20.30 น. พ.ต.ท.สุชาติ แย้มศักดิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วยชุดสืบสวน สภ.ท่าตะเกียบ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจากกองกำกับการพิสูจน์หลักฐานภูธร จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ชุด EOD จากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา แพทย์เวรจาก รพ.ท่าตะเกียบ และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม

       ได้เดินทางเข้าไปร่วมกันตรวจชันสูตรพลิกศพ นายสุชาติ คะเสนา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/3 ม.1 ต.ท่าตะเกียบ  ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงตนเองเสียชีวิตภายในป่าดิบรกทึบสลับกันกับสวนป่าไม้ยูคาลิปตัสท้ายหมู่บ้านน้อยนาดี พื้นที่ ม.11 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนสาย 3259 (เดิม) ตามเส้นทางถนนลูกรังและทางดิน เข้าไปยังภายในป่าประมาณ 4 กิโลเมตร

 

     หลังการชันสูตรพลิกศพ พ.ต.อ.กษิภณ ศิริจันทร์ ผู้กำกับการ สภ.ท่าตะเกียบ กล่าวว่า นายสุชาติ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 ที่ผ่านมาได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เป็นพ่อตา เสียชีวิตภายในบ้านพักในเขตพื้นที่ ม.1 ต.ท่าตะเกียบ ก่อนที่จะหลบหนีไป ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามหาทางเกลี้ยกล่อมโดยติดต่อผ่านไปทางญาติ เพื่อให้ผู้ต้องหายินยอมเข้ามามอบตัว

      แต่ทางฝ่ายผู้ต้องหากลับไม่ยินยอม อีกทั้งยังได้มีการข่มขู่ด้วยการตอบกลับมาทางญาติผ่านทางเฟซบุ๊กด้วยว่าจะขอยอมตาย พร้อมกับมีการลงภาพถ่ายถือลูกระเบิดข่มขู่ไว้ด้วยว่า หากใครเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยจะใช้ระเบิดขว้างเข้าใส่ทันที ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่าแห่งนี้ จึงได้นำกำลังเข้ามากดดันอย่างหนัก และเมื่อผู้ต้องหาเห็นว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ที่พกติดตัวมาพร้อมกันกับปืนอีก 3 กระบอกยิงตัวตาย

 

โดยปืนที่ผู้ตายพกติดตัวมาประกอบด้วย ปืนแก๊ป 1 กระบอก ปืนยาวไม่ทราบขนาด 1 กระบอก และอาวุธปืนไทยประดิฐขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุยิงพ่อตาจนเสียชีวิตและยิงตัวตาย 1 กระบอก หลังการชันสูตรพบว่าผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับข้างขวาของตนเอง 1 นัด กระสุนฝังใน แต่ไม่พบลูกระเบิดพกติดตัวหรืออยู่ในที่เกิดเหตุ โดยมือขวายังกำถืออาวุธปืนที่ใช้ยิงตนเองไว้อยู่ ซึ่งจะได้ส่งศพไปยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อผ่าศพนำหัวกระสุนออกมาตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกันกับคดีที่ผู้ตายยิงพ่อตาจนเสียชีวิตต่อไปว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ พ.ต.อ.กษิภณ กล่าว