'รอง ผบ.ตร.'แถลงจับขาใหญ่'แก๊งยากูซ่า'ซุกไทย 13 ปี

               เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มกราคม 2561 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองลพบุรี เพื่อสอบสวนการจับกุมตัว นายชิเกฮารุ ชิเรอิ สมาชิกอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลของแก๊งยากูซ่า “ยามากุชิ กูมิ (Yamaguchi Gumi)” ที่ได้ร่วมกับพวกอีก 7 คน สังหารรองหัวหน้าแก๊งยากูซ่าคู่อริอย่างโหดเหี้ยม แล้วหลบหนีความผิดมาแต่งงานกับสาวไทย และกบดานอยู่ที่ จ.ลพบุรี กว่า 13 ปี ซึ่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ตำรวจภูธร จ.ลพบุรีสามารถจับกุมได้

               พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.เคสุกะ โอซากะ เลขานุการเอกและเจ้าหน้าที่ประสานงานอาวุโสฝ่ายตำรวจ ประจำสถานเอกอัคราชทูตญี่ปุ่น ได้เข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 จากนั้นได้หารือขอให้ทางการไทยช่วยติดตามอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญ คือ นายชิเกฮารุ ชิเรอิ อายุ 72 ปี สัญชาติญี่ปุ่น สมาชิกอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลของแก๊งยากูซ่า ชื่อ ยามากุชิ กูมิ ซึ่งเป็นแก๊งใหญ่มีเครือข่ายสมาชิกกว่า 17,000 คน ถือเป็นแก๊งใหญ่สุดในญี่ปุ่น โดยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2546 นายชิเกฮารุ ได้ร่วมกับพวกอีก 7 คน ก่อเหตุฆ่าโหด นายคาชิสึโกะ โอโดเบะ รองหัวหน้ากลุ่ม “คามิยะ” ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าคู่อริ ทั้งนี้นายชิเกฮารุ ได้ใช้ปืนยิงผู้ตายอย่างโหดเหี้ยมหลายนัด และภายหลังก่อเหตุนายชิเกฮารุ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ กระทั่งตำรวจญี่ปุ่นได้เบาะแสว่า นายชิเกฮารุ เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2548

               พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า หลังหารือและขอความร่วมมือดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งจากการแกะรอยพบข้อมูลบุคคลที่มีรูปพรรณสันฐานคล้ายนายชิเกฮารุ อาศัยอยู่กับภรรยาชาวไทยใน จ.ลพบุรี โดยมักปรากฏตัวในสวนสาธารณะบริเวณศาลลูกศร อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นประจำ ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี ได้พบนายชิเกฮารุ อยู่ที่สวนสาธารณะดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวไว้ และจากการสอบสวนเบื้องต้นยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต , อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด และเป็นคนต่างด้าวไม่แจ้งที่พักอาศัย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง” พร้อมทั้งประสานทางการญี่ปุ่นเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

               “จากการสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นายชิเกฮารุ มีภรรยาเป็นชาวไทย ชื่อ นางอริสรา เมื่อต้องคดีที่ญี่ปุ่นจึงหนีมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2548 และได้มาอาศัยอยู่ใน จ.ลพบุรี ทำงานรับจ้างทั่วไป เช่น ทาสีบ้าน แต่ภายหลังมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาเป็นประจำจึงได้เลิกรากันไป ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่เพียงลำพัง แต่ตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทย ก็ได้ทำตัวให้เป็นจุดสนใจน้อยที่สุด เพราะเกรงว่าความลับจะถูกเปิดเผย จนมาถูกตำรวจของเราจับกุมได้ในที่สุด นอกจากนี้ตำรวจยังได้ออกติดตามตัว นางอริสรา อดีตภรรยา เพื่อมาให้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป” พล.ต.อ.วิระชัย กล่าว

               พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวด้วยว่า ในทุกๆ ปีที่มาหลบกบดานอยู่ประเทศไทยของนายชิเกฮารุ จะมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นนำเงินมามอบให้ครั้งละ 10,000 บาท เป็นประจำ ปีละ 2-3 ครั้ง เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยายผลต่อว่า บุคคลดังกล่าวเป็นใคร และมีเครือข่ายกระทำผิดอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง สำหรับกรณีนี้ทางตำรวจจะทำการเนรเทศนายชิเกฮารุ เพื่อกลับไปรับโทษที่ประเทศญี่ปุ่น แต่จะต้องทำการตรวจสอบให้ละเอียดก่อนว่า นายชิเกฮารุ เคยต้องคดี หรือเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีของประเทศไทยหรือไม่ ถ้าหากมีก็จะต้องดำเนินคดีและรับโทษในประเทศไทยให้เสร็จสิ้นเสียก่อน จากนั้นจึงจะทำการเนรเทศจากราชอาณาจักรได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คุมตัว'ขาใหญ่แก๊งยากูซ่า'ชี้จุดที่พัก-จุดถูกจับกุม