เพลิงไหม้อาคารสนง.โรงงานช้าฟเนอร์ เจ็บ 2 ราย 

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (30 ธ.ค.60) ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิ คนสูง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานของบริษัทช้าฟเนอร์ อีเอ็มซี จำกัด ซึ่งเป็นผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิค เกี่ยวกับรถยนต์ส่งออกยุโรปและอเมริกา ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมลำพูน บริเวณเขต ต.บ้านกลาง และเขตติดต่อ ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน เบื้องต้นเพลิงลุกไหม้ลุกลามอย่างหนัก มีควันพวงพุ่งออกมาจากอาคารจำนวนมากจึงได้เร่งรุดไปยังจุดเกิดเหตุ

          ที่เกิดเหตุเป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น เพลิงได้ลุกลามจากชั้นล่างไปยังชั้น 2 ผนัง หน้าต่าง บางส่วนเสียหายหนัก มีไฟลุกลามออกมาเป็นระยะ โดยทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น. ก่อนที่จะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด เมื่อเวลา 10.30 น. แต่ยังคงมีควันและความร้อนปะทุ รวมถึงอาจจะมีอาคารบางส่วนหักโค่น เป็นอันตราย จึงยังไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน และมีการกั้นพื้นที่อย่างเข้มงวด

         จากการสำรวจเบื้องต้น เชื้อว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องด้านในสุดของอาคาร ก่อนจะลุกลามไปทั่วชั้น1 และลามขึ้นไปยังชั้น2 แต่ขณะเกิดเหตุนั้น บริษัทอยู่ในช่วงหยุดให้พนักงานพักผ่อนในช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วานนี้ (29 ธ.ค.) จึงทำให้ไม่มีผู้อยู่ในอาคาร ยกเว้นแต่พนักงานบัญชีรายหนึ่งที่บังเอิญเข้ามาเอาเอกสารขณะเพลิงไหม้ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และพนักงานกู้ภัยรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดระเบิดในอาคาร ทำให้กระจกแตกกระเด็นใส่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รวมมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย

          แม้ว่าเพลิงจะลุกลามอย่างหนักภายในอาคาร แต่ทรัพย์สินที่เสียหายส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้สำนักงาน โต๊ะเก้าอี้ ไม่ได้ลุกไหม้วัตถุไวไฟ หรือสารเคมีอันตราย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะได้มีการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ให้แน่ชัดต่อไป

          นายธนัฐพงษ์ บุญสุวรรณโน พนักงานในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ได้รับทราบข้อมูลจากในกลุ่ม LINE ของพนักงานบริษัทว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารสำนักงานบริษัทชาร์ปเนอร์ อีเอ็มซี จำกัด ซึ่งตนทำงานที่นี่มากว่า 12 ปีแล้ว จึงได้รีบมุ่งหน้าออกจากบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ มายังจุดเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. จึงเห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างหนักมีประกายไฟ และควันพวงพุ่งออกมาจากหน้าต่างอาคารโรงงาน โดยมีรถดับเพลิงจำนวนมากเข้ามาเร่งระดมฉีดน้ำระงับเหตุ อย่างเร่งด่วน ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันดับเพลิงจน สามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลาประมาณ 10.30 น.

          นายธนัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากอาคารที่เกิดเพลิงไหม้เป็นอาคารสำนักงานไม่ได้อยู่ในส่วนของฝ่ายผลิตจึงทำให้ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีไม่มากนัก และสามารถตัดประเด็นการจงใจวางเพลิง กลั่นแกล้ง หรือตั้งใจเผาเอาประกันไปได้ เพราะบริษัทไม่มีปัญหาด้านการเงิน และพนักงานอยู่กันอย่างมีความสุข อบอุ่นดีแบบครอบครัว.