สตม.โชว์ผลงานจับชาวยูกันดาค้ามนุษย์

 
          เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. 60 -  ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) แถลงผลการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยมีคดีเด่นๆ ดังนี้ การจับกุมขบวนการค้ามนุษย์โดยชาวยูกันดา ที่หลอกหญิงชาวยูกันดาด้วยกันเอง โดยตำรวจสามารถจับกุม น.ส.เบลินดา นามูลี สัญชาติยูกันดา ได้ที่คอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ภายใน ซ.ปรีดีพนมยงค์ 42 เขตคลองตัน หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาใช้ห้องดังกล่าวเป็นที่หลบซ่อนตัว ก่อนขยายผลจับกุมตัว นายโมเสส มูโซกิ สัญชาติยูกันดา และสามารถช่วยเหลือหญิงชาวยูกันดาได้รวม 30 คน

          พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า อีกหนึ่งคดีสำคัญ คือ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้จับกุมตัว น.ส.นารีรัตน์ มุดขุนทด หรืออัง และ น.ส.รัตน์ตนาพร แจ่มใส หรือ หมวย ซึ่งเป็นขบวนการหลอกลวงหญิงไทยให้ไปค้าประเวณีที่ประเทศโอมาน โดยอ้างว่าไปทำงานนวดแผนโบราณ แต่กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณีแทน โดยขมขู่ว่าถ้าไม่ทำก็ต้องชดใช้หนี้ค่าใช้จ่ายที่เดินทางมายังประเทศโอมานจำนวนหลายล้านบาท

          “นอกจากนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังได้จับกุมนายอกาวัล ประชันท์ (Mr.AGARWAL PRASHANT) สัญชาติอินเดีย พร้อมด้วยของกลาง เงินสดธนบัตรไทย 12,300 บาท ธนบัตรสหรัฐอมเริกา 377 ดอลลาร์สหรัฐ บัตรเครดิตของผู้เสียหาย และอื่นๆ อีกหลายรายการ หลังจากที่นายอกาวัลได้หยิบกระเป๋าของผู้เสียหายที่ลืมไว้ขณะเข้าช่องตรวจสิ่งของภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่ตนเองผ่านช่องตรวจต่อจากผู้เสียหาย โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในท่าอากาศยานหรือรับของโจร เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ผบช.สตม. กล่าว

          พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศไทยของชาวต่างชาติ ย้อนหลังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า ในช่วงปลายปีมีแนวโน้มชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกประเทศสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2560 มีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากกว่า 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 2 ปีที่ผ่านมาเกือบ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด จำนวนกว่า 1.6 ล้านคน รองลงมาเป็นชาวมาเลเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย ญี่ปุ่น และ รัสเซีย ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด 1,867 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 46 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน จำนวน 609 ราย ส่วนรองลงมาคือ อินเดีย เวียดนาม ปากีสถาน และ ไนจีเรีย 

          ทั้งนี้มีการจับกุมชาวต่างชาติในความผิดต่างๆ รวมกว่า 2.8 หมื่นราย ส่วนสถิติการปฏิเสธไม่ให้คนต่างชาติเข้ามาในราชอาณาจักร เนื่องจากมีลักษณะไม่ได้เข้าตามวัตถุประสงค์ของพิซซ่าที่ได้รับ หรือสุ่มเสี่ยงต่อการเข้ามาก่ออาชญากรรมต่างๆ มีสถิติการปฏิเสธ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 15 ธันวาคมที่ผ่านมา จำนวน 1,760 ราย.