“ดีเจเก่ง” ร้องปอท.เอาผิดมือตัดต่อภาพทำเสียหาย

 
          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. 60 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ หรือ “ดีเจเก่ง” เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปัสสิทธิ์ ศรีสุโพธิ์ รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดบุคคลโพสต์ข้อความและตัดต่อภาพนำเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนสร้างความเสียหาย ในข้อหา “นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมฯ และข้อหาหมิ่นประมาท”
 
          นายภัทรศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีบุคคล 2 รายได้นำรูปภาพเก่าของตนไปตัดต่อในลักษณะกำลังยืนดมกาวและตัดต่อนำโลโก้ของสถานีวิทยุที่จัดรายการมาเผยแพร่ รวมทั้งโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทตนด้วย หลังนำไปพาดพิงกับกรณีวัยรุ่นต่อยหญิงสาวในรถแท็กซี่ บอกว่า “น็อต กราบรถ” และ “ดีเจเก่ง” ทำไมสังคมให้อภัยแต่วัยรุ่นต่อยผู้หญิงกลับถูกต่อว่าจากสังคม ลงในเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง โดยตนทำงานหลายด้าน อาทิ ดีเจจัดรายการ พิธีกร ทำธุรกิจส่วนตัว แต่ต้องมาได้รับผลกระทบอย่างหนัก

          นายภัทรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เพจดังกล่าวตนเข้าไปดูคอมเม้นท์ต่างๆ ส่วนใหญ่จะให้กำลังใจตนมากกว่า แต่มีแค่เพียงบุคคล 2 รายที่ชอบโพสต์รูปภาพตัดต่อและข้อความดูหมิ่นมาตลอด โดยตนเคยโพสต์หาทั้ง 2 คนดังกล่าวเพื่อเตือนแล้วให้หยุดพฤติกรรมแต่ก็ยังกระทำต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีที่เกี่ยวกับตนนั้น ศาลได้ตัดสินให้รอลงอาญา 2 ปีและถึงที่สิ้นสุดแล้ว ซึ่งตนไม่ได้ขับขี่รถอีกเลยและใช้บริการรถสาธารณะเดินทาง หากมีใครอยากรู้อะไรเกี่ยวกับตนให้ถามมาที่ตนดีกว่าจะโพสต์ลงไปในโซเชียล 
 
          เบื้องต้น พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบหาตัวผู้ใช้เฟซบุ๊กทั้ง 2 คน เพื่อสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 
          รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเฟซบุ๊กที่ได้โพสต์รูปภาพที่มีการตัดต่อดังกล่าวมี จำนวน 2 รูป โดยเฟซบุ๊กที่ชื่อ “Tum pratchya phiromrat” โพสต์รูปดีเจเก่งกำลังดมกาว พร้อมนำไปแชร์ต่อ ส่วนชื่อเฟซบุ๊ก “ Chupong Oobbenjasup” นำภาพโลโก้ของสถานีวิทยุไปตัดต่อกับภาพเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
 
          ทั้งนี้สำหรับ นายภทรศักดิ์ หรือ ดีเจเก่ง เคยเป็นข่าวครึกโครม และเป็นที่วิพากษณ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งในสังคม และโลกออนไลน์ เมื่อช่วงต้นเดือนม.ค. 2559 จากพฤติกรรมขับรถกระบะถอยชนรถเก๋งที่ย่านดินแดง แล้วโพสต์คลิปขอความเห็นใจทั้งที่ตัวเองกระทำผิด จนถูกผู้คนส่วนใหญ่จวกยับ และให้ฉายาว่า “เก่ง เกียร์อาร์” กระทั่งต่อมาศาลแขวงพระนครเหนือได้พิพากษาตัดสินให้จำคุก 3 เดือน 15 วัน ไม่รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีร้ายแรง พร้อมทั้งสั่งยึดรถ ยึดใบอนุญาตขับขี่ แต่หลังศาลมีคำสั่งตัดสินทางทนายความได้ทำเรื่องขอประกันตัวเพื่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์.