ข่าว

จับหนุ่มหลอกลงทุนฟอเร็กซ์เสียหายกว่า 4 ล้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พนักงานบริษัทการลงทุนแห่งหนึ่ง เดินสายบรรยายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ อ้างผลตอบแทนสูง เหยื่อ 11 รายหลงเชื่อนำเงิน 4 ล้านร่วมธุรกิจ


               13 ก.ย. 60  เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป)  พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.กันต์กวี อดุลยาศักดิ์ สว.กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. ทำการจับกุม นายถิรวัฒน์ ดีป้อม อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 288/112 ม.11 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ 185/2560 ลงวันที่ 23 ส.ค. 60 ในข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

               สืบเนื่องจากนายถิรวัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งขณะนั้นเป็นพนักงานของบริษัทเกี่ยวกับการลงทุนแห่งหนึ่งได้เป็นตัวแทนเดินสายบรรยาย เรื่อง การลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (FOREK) ในพื้นที่ต่างๆ หลายจังหวัด และมีการพูดเชิญชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนธุรกิจดังกล่าว โดยอ้างว่าจะได้รับเงินค่าตอบแทนค่อนข้างสูง โดยมีการเสนอแผนการลงทุนเป็นแพ็กเกจ มีเงินปันผลตอบแทนรายสัปดาห์ หรือรายเดือน ตามแต่จะตกลงกัน จึงทำให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนเป็นจำนวน 11 ราย รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท แต่ต่อมาธุรกิจดังกล่าวกลับเริ่มมีปัญหาในการจ่ายเงินปันผลตอบแทนและคืนเงินต้นให้ช้า โดยนายถิรวัฒน์อ้างว่า จะจ่ายเงินให้ในรูปแบบการลงทุนที่เรียกว่า บิทคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งเป็นสกุลเงินในรูปแบบของดิจิทัลให้แทน แต่เมื่อมีการตรวจสอบกลับพบว่าสกุลเงินดังกล่าวนั้นไม่มีอยู่จริง ผู้เสียหายจึงได้รวมตัวกันไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก จนมีการออกหมายจับ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้เดินทางเข้ามาพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม. จึงนำกำลังเข้าไปทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว

               จากการสอบสวน นายถิรวัฒน์ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง แต่ที่ผ่านมาธุรกิจดังกล่าวเกิดปัญหาติดขัดด้านการเงิน จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้เสียหายได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายซึ่งถูกหลอกในลักษณะดังกล่าวเตรียมรวมตัวเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีกนับสิบราย มูลค่าหลายล้านบาท จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก รับตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ