มือฆ่าดญ.14 ปีไม่ยินยอมทำแผน-ขอขมา พบมีคดีข่มขืนพื้นที่ข้างเคียงอีก1คดี
เวลา 08.30 น. วันที่ 21 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการทำความเข้าใจต่อชาวบ้านที่มารวมตัวชุมนุมเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโพธิ์ นำตัวนายแป็ก หรือนายสุพรชัย หนูน้อย อายุ 31 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนบีบคอฆ่า ด.ญ.สาว (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และขอขมาศพว่า ได้ทำการพูดคุยกันกับทางญาติจนเป็นที่เข้าใจแล้ว
พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวอีกว่า เรื่องการทำแผนนั้นไม่มีความจำเป็น เนื่องจากผู้ต้องหาได้จำนนต่อหลักฐานแล้ว และหลักฐานที่มีอยู่นั้นเพียงพอที่จะทำให้ศาลสั่งลงโทษผู้ต้องหาได้แล้ว ตลอดจนในเรื่องของความปลอดภัยนั้น เมื่อทราบว่ามีกลุ่มชาวบ้านมารวมตัวกัน อาจจะไม่สามารถทำการควบคุมสถานการณ์ได้ จนอาจเกิดความเสียหายแก่ตัวผู้ต้องหารวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการควบคุมตัว ส่วนการให้ผู้ต้องหาไปขอขมาศพนั้น หากผู้ต้องหาไม่ยินยอมไป ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพาไปซึ่งตำรวจบังคับผู้ต้องหาไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจที่จะไปบังคับให้ไปขอขมาศพ จึงอยู่ที่ความสมัครใจของผู้ต้องหาเองว่า จะไปหรือไม่ และการไม่ยินยอมที่จะไปขอขมาศพนั้น ก็เป็นสิ่งบ่งบอกแล้วว่า ผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวและยอมรับสารภาพนั้น ไม่ใช่เพราะสำนึกผิด แต่เป็นเพราะจำนนต่อหลักฐาน ซึ่งตัวผู้ต้องหาไม่ได้ยินยอมทั้งสองกรณี ทั้งการไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และการไปขอขมาศพ
พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากทางญาติได้รับฟังการชี้แจงจากตำรวจแล้ว จึงได้เข้าใจตรงกัน ซึ่งก็ได้ให้ความมั่นใจแก่ทางญาติไปว่า คดีนี้จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุดด้วยความรอบคอบและรวดเร็ว ส่วนผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุคดีข่มขืนในพื้นที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เมื่อเดือน มิ.ย.60 ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เมื่อรวมกับคดีพยายามชิงทรัพย์ 1 คดี และคดีชิงทรัพย์อีก 2 คดี ในท้องที่ สภ.พนัสนิคม ผู้ต้องหาจะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 3-4 คดี
ส่วนคดีข่มขืนนั้น ไม่ทราบว่ามีทั้งหมดกี่คดีในพื้นที่ สภ.พนัสนิคม แต่ที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ จำนวน 1 คดี ซึ่งในตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนจาก สภ.พนัสนิคม ได้ทำการอายัดตัวและสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว สำหรับการก่อเหตุในท้องที่ สภ.พนัสนิคม นั้น ผู้ต้องหาไม่ได้ฆ่าเหยื่อ เพราะผู้เสียหายเป็นผู้ใหญ่ อายุกว่า 30 ปีแล้ว และเป็นคนที่ผู้เสียหายไม่รู้จักหน้ากันมาก่อน ไม่เหมือนกับคดีของ ด.ญ.สาว ที่ผู้ตายรู้จักหน้าผู้ต้องหา จึงเกรงกลัวความผิดและลงมือฆ่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง