ผู้ว่าเมืองลับแลปัดซื้อบริการเด็กพ้อเป็นจำเลยสังคม

     วันที่ 28 เมษายน หลังจากมีชื่อถูกพาดพิงอยู่ในข่าวคดีค้ามนุษย์ ค้าประเวณีเด็กสาวใน จ.แม่ฮ่องสอน อยู่หลายวัน แต่ยังไม่เคยออกมาชี้แจงหรือแก้ข่าวต่อสื่อมวลชน ล่าสุด นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ในฐานที่เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนช่วงเดือนตุลาคม 2558-กันยายน 2559 ได้ออกมาชี้แจงครั้งแรกยืนยันว่าผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่แม่ของเด็กสาวเหยื่อค้ามนุษย์ให้การกับตำรวจว่าเป็นหนึ่งในผู้ซื้อบริการทางเพศลูกสาวของเธอนั้น ไม่ใช่ตัวเขาแน่นอน เพราะเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

     นายพิพัฒน์ โพสต์ข้อความและภาพกิจกรรมเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา และบำรุงพระพุทธศาสนาใน จ.แม่ฮ่องสอน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 28 เมษายน  ระบุว่า ช่วงนี้กระแสข่าวเรื่องการค้ามนุษย์ของแม่ฮ่องสอนดังมาก เห็นใจจังหวัดนี้มาก ตนผูกพันกับจังหวัดนี้มากประชากรจนที่สุดในประเทศ เก็บภาษีได้น้อยที่สุดในประเทศ และมีชนเผ่าหลายชาติพันธ์ุอยู่ร่วมกัน 

     นายพิพัฒน์ ระบุว่า โดยส่วนตัวยังดูแลการศึกษาของเยาวชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ในฐานะประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาการศึกษา ปี2559 ส่งนักศึกษาเรียนในระดับอุดมศึกษา 130คน ส่งแบบต่อเนื่องจนจบ 10ทุน มีทั้งแพทย์ สถาปัตย์ เกษตร ศึกษา ฯลฯ ในปี2560 ได้รับความกรุณาจาก อธิการบดี ให้ทุนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ อีก24ทุนฟรีทังที่พักและค่าหน่วยกิต เพิ่งไปประชุมชี้แจงให้กับนักเรียนทุนเมื่อวันที่1เมษายน  เพื่อต้องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของแม่ฮ่องสอนให้มีคุณภาพกลับไปพัฒนาบ้านเกิดของตนต่อไป

        นายพิพัฒน์ บอกด้วยว่า นอกจากนี้ยังไปตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการก่อสร้างฐานพระพุทธสุริยเมตตรัยและครูบาผาผ่าที่วัดพระธาตุปางหมู เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาและเป็นแลนมาร์คในย่านไทยใหญ่ทาวน์ที่ตนริเริ่มตั้งขึ้นเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากปายและจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ชึ่งไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกัน 

     "ตามที่มีกระแสข่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนซื้อบริการเด็ก ผมขอยืนยันความบริสุทธิ์ว่าผมไม่ทำเช่นนั้นแน่ ในวันที่ผมไปรับตำแหน่ง 1 ตุลาคม 2558 คืนนั้นผมนอนที่วัดพระธาตุดอยกองมูเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตและครอบครัวครับและผมก็เชื่อมั่น100%ว่าท่านผู้ว่าสืบศักดิ์ฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน  คนปัจจุบัน ไม่มีวันทำเช่นนั้นครับ ความจริงจะปรากฏในไม่ช้านี้ครับทั้งการตั้งกรรมการจากกระทรวงมหาดไทย และคดีที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.) และตำรวจภูธรภาค5รับผิดชอบดูแลอยู่  ถ้าทำผิดจริงไม่มีใครหนีพ้นหรอกครับ แต่ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงก็ถูกพิพากษาทางสังคมตามกระแสที่สื่อเสนอไปแล้วครับความดีความงามชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหายไปในพริบตาครับ ขอกำลังใจจากเพื่อนๆ และโปรดใช้วิจารณญานในการวิเคราะห์ข่าวสารด้วยครับ”นายพิพัฒน์ ระบุ

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายพิพัฒน์ โพสข้อความดังกล่าว ได้มีสมาชิกเข้ามากดไลท์ ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ขณะที่บรรยากาศห้องทำงานมีเพียงเจ้าหน้าที่ทำงาน ส่วนนายพิพัฒน์ ปฏิบัติราชการที่กรุงเทพฯเรื่องการชี้แจ้งงบประมาณ มีกำหนดเดินทางกลับ วันที่ 30 เมษายน

ภาพจากเฟซบุ๊ก พิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์