คุม2ผู้ต้องหาปาระเบิดทำแผน!

 

          วันที่ 30 ม.ค.2560 เมื่อเวลา 14.50 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน (รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางนำตัวผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายอนุรักษ์ หรือหมู แซ่โง้ว อายุ 24 ปี และนายอนุสรณ์ หรือตี๋ แซ่โง้ว อายุ 31 ปี สองพี่น้องมือปาระเบิดใส่กลุ่มวัยรุ่นฝ่ายคู่อริภายในงานทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิตภายในวัดอัมพวัน (กม.7) พื้นที่ ม.6 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 5 ราย เดินทางมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังในที่เกิดเหตุ

 

 

          โดยมีประชาชนนับพันคน ที่ต่างเดินทางมายืนรายล้อมรอคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ตั้งแต่ในช่วงสายของวันนี้ โดยรอบบริเวณพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยทางตำรวจได้ใช้เชือกฟางขึงกั้นเป็นแนวยาวเพื่อกันบริเวณพื้นที่เอาไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุปาระเบิด รัศมีประมาณ 40 เมตร ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดและสมมุติเหตุการณ์ประกอบคำรับสารภาพ ยังที่จุดจอดรถของผู้ต้องหาที่บริเวณใต้ต้นไม้ด้านหลังโบสถ์ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 40 เมตร จากนั้นได้พามายังจุดที่ผู้ต้องหาดึงสลักระเบิดออกแล้วขว้างไปยังที่โต๊ะด้านข้างถนนเยื้องหน้าเวทีที่อยู่ห่างกันไปประมาณ 20 เมตร

 

 

          แต่หลังจากขว้างระเบิดออกไปแล้ว ระเบิดยังไม่ทำงาน จึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ยิงขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไปเนื่องจากเกรงว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามทำร้าย จากนั้นจึงพามาที่จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ ที่ผู้ต้องหานั่งร่วมวงอยู่กับโต๊ะของชาวบ้านที่บริเวณริมถนน ห่างจากจุดที่กลุ่มฝ่ายของคู่กรณี และชาวบ้านอีกกลุ่มนั่งอยู่หน้าองค์พระยืนประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายตี๋ได้พานายหมูน้องชายไปแนะนำให้นักเลงเจ้าถิ่นรู้จัก แต่กลับถูกแซวว่าลักษณะท่าทางอย่างนี้ต้องนำไปตรวจฉี่เสียก่อน

 

 

          จึงทำให้นายหมูไม่พอใจ และได้มีการขว้างแก้วสุราทิ้งลงพื้น ก่อนที่จะมีเรื่องชกต่อยกัน ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ ได้เริ่มเกิดมีเหตุการณ์ที่กลุ่มชาวบ้านพยายามที่จะผลักดันฝ่าวงล้อมซึ่งเป็นแนวป้องกันของตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย ที่ยืนเรียงแถวประสานแนวกำแพงมนุษย์เป็นวงกลมล้อมรอบตัวผู้ต้องหาเอาไว้ ขณะการดำเนินการทำแผนอย่างหนาแน่น จึงได้เกิดการชุลมุนกันขึ้น จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบถอยรถตู้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้ามารับตัวขึ้นรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็วในทันที

 

 

          ท่ามกลางเสียงกร่นด่าทอของชาวบ้าน และความชุลมุนวุ่นวายที่เกิดขึ้น จากการที่ฝูงชนพยายามที่จะใช้กำลังผลักดันแนวกำแพงของเจ้าหน้าที่เข้ามา แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการตัดสินใจชิงเอาตัวผู้ต้องหาออกไปก่อนได้อย่างรวดเร็ว เหตุการณ์จึงสงบลงได้ในที่สุด

 

 

          ขณะที่ทางญาติของผู้เสียชีวิตนั้นคือ นางสมพิศ ซุ่นอึ้ง อายุ 50 ปี ที่ต้องมาสูญเสียบุตรชาย คือ นายพิษณุ ชุ่นอึ้ง อายุ 33 ปี ไปในเหตุการณ์ครั้งนี้ถึงกับเข่าอ่อน เมื่อได้เห็นหน้าของผู้ต้องหา ด้วยความโศกเศร้าคับแค้นใจที่บรรดาญาติไม่สามารถที่จะทำอะไรผู้ต้องหาได้ จนเป็นลมล้มฟุบลงไปที่พื้นในบริเวณจุดเกิดการชุลมุน