"ปีเตอร์"สารภาพรุมฆ่าหั่นศพ-หมอจุฬาชี้เหยื่อคนฮังการี

        ความคืบหน้าคดีแก๊งปลอมพาสปอร์ตฆ่าหั่นศพแยกชิ้นส่วนในตู้แช่ภายในห้องพักอาคารพาณิชย์เลขที่ 18/1 ซอยสุขุมวิท 56 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ล่าสุดที่สน.พระโขนง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 กันยายน พนักงานสอบสวนได้นำเครื่องเจีย 2 ตัว และกล่องอุปกรณ์ 2 กล่องที่เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานในคดีแก๊งปลอมพาสปอร์ตหั่นศพแยกชิ้นส่วนมอบให้แก่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อตรวจพิสูจน์เพิ่มเติมประกอบสำนวนคดี พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบิกตัวนายปีเตอร์ แอนดริว โคลเตอร์ หรือนายวิลเลียม ปีเตอร์ จอห์นสัน อายุ 66 ปี ผู้ต้องหาชาวต่างชาติแก๊งปลอมหนังสือเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง

        ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ เดินทางมายังสน.พระโขนง เพื่อสอบปากคำนายปีเตอร์ จอห์นสัน ด้วยตนเองพร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.พระโขนง จากนั้นเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานการตรวจสอบลายนิ้วแฝงจากถุงสีดำที่ใช้ในการห่อศพแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังรอผลการชันสูตรพลิกศพว่าผู้ตายเป็นใครและตายอย่างไร และหากทราบว่าผู้ตายเป็นใคร เจ้าหน้าที่สามารถลงรายละเอียดอื่นๆ ได้ จึงได้เร่งรัดผลตรวจพิสูจน์หลักฐานให้ออกมาเร็วที่สุด คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะทราบผล แต่ต้องให้เวลา เพราะหากเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำด้วยความรอบคอบ แต่ถ้าวันนี้ผลตรวจพิสูจน์ออกมาชัดเจนว่าศพที่พบ ถูกนายปีเตอร์ทำให้ตาย พร้อมกับมีผลยืนยันชัดเจนว่า ผู้ตายเป็นใคร เจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกหมายจับนายปีเตอร์ในข้อหาฆ่าคนตายต่อไป

       รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดนายปีเตอร์ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนหั่นศพเหยื่อที่ถูกแช่แข็ง โดยได้ร่วมกับพรรคพวกอีก 3 คน ทำร้ายผู้ตายเพื่อต้องการจะทวงหนี้ โดยใช้วัตถุบางอย่างรัดคอทำให้สลบ แต่พอวันรุ่งขึ้นปรากฏว่าเหยื่อเสียชีวิต จึงไม่รู้จะทำอย่างไรกับศพ กระทั่งเวลาผ่านไป 2 วัน จึงได้สั่งตู้แช่ขนาดใหญ่ และซื้อเลื่อยมาหั่นศพออกเป็นชิ้น เพราะผู้ตายรูปร่างสูงใหญ่ไม่สามารถนำศพใส่ตู้แช่ได้ จึงต้องหั่นศพเสียก่อน ภายหลังการรับสารภาพตำรวจยังคงสอบปากคำนายปีเตอร์ เนื่องจากไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด เพราะคำให้การบางอย่างขัดกับหลักฐานที่ทางตำรวจมีอยู่ นอกจากนี้จากการสอบปากคำทำให้เจ้าหน้าที่ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายชาร์ล เป็นชาวอเมริกัน

         รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ขณะนี้พยานหลักฐานคืบหน้าไปมากหลังจากนายปีเตอร์รับสารภาพ โดยก่อนหน้านี้ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถยึดตู้เซฟจากอาคารพาณิชย์ ซอยสุขุมวิท 56 รวม 3 ตู้ และนำมาตรวจสอบภายในตู้แรกพบอาวุธปืน 3 กระบอกและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ส่วนใบที่สองพบวัตถุพยานสำคัญคือใบเลื่อยขนาดความยาว 17 นิ้วจำนวน 1 ใบ มีลักษณะพิเศษโดยเฉพาะและไม่มีขายในประเทศไทย นอกจากนี้ยังพบใบเลื่อยขนาดต่างๆ ลดหลั่นขนาดลงมา และยังมีเลื่อยลูกหมูอีก 2 ตัว เครื่องใส่ใบเลื่อยอีก 1 ตัว ส่วนตู้เซฟใบที่สามนั้นพบเพียงถุงกระดาษสีน้ำตาลสภาพเก่าและเทปคาสเซต 1 ม้วน จึงนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบคราบเลือด ดีเอ็นเอและรอยนิ้วมือแฝง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจผลพิสูจน์ทราบอยู่ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงจากถุงดำที่ใช้บรรจุศพนั้น พบเป็นรอยนิ้วมือของนายแอรอน โทมัส กาเบล หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ติดอยู่ที่ถุงด้วย

       วันเดียวกันเมื่อเวลา 16.45 น.ที่ห้องประชุมมงคลนาวิน ตึกสก. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการรพ.จุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วย ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ ร่วมแถลงผลการชันสูตรและวิเคราะห์ชิ้นส่วนมนุษย์แช่แข็งของเหยื่อหั่นศพแช่ตู้จำนวน 11 ชิ้นเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล สาเหตุ และพฤติการณ์การตาย

      ผศ.นพ.อุดมศักดิ์ เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรเบื้องต้นสามารถระบุได้ว่าผู้ตายเป็นเพศชายอายุประมาณ 40-50 ปี ส่วนสูงประมาณ 179.5 (+/-5) เซนติเมตร เชื้อชาติยุโรปตะวันออกทางตอนใต้ เป็นชาวฮังการี เวลาตายไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากศพถูกแช่แข็งมานาน สาเหตุการตายเบื้องต้นสันนิษฐานอาจเกิดจากการขาดอากาศและ/หรือการใช้ยาหรือสารพิษร่วมด้วย ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวเป็นการประมวลจากการตรวจฟันโดยทันตแพทย์จากคณะทันตแพทยศาสตร์จุฬาฯ และการร่วมมือโดยตรวจชิ้นส่วนศพด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และรังสีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จากการร่วมมือการผ่าชันสูตรชิ้นส่วนศพโดยการประมวลผลทางนิติมานุษยวิทยา นิติรังสีวิทยา นิติพันธุศาสตร์ และนิติพิษวิทยาของทีมนิติเวชจุฬาฯ ซึ่งช่วยจำกัดขอบเขตในการสืบค้นและสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สามารถดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตามกรณีสาเหตุการเสียชีวิตยังต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์ทางนิติพิษวิทยาเพื่อใช้สนับสนุนอีกด้วย โดยหลังจากนี้ทางแพทย์จะได้ส่งรายงานผลการตรวจยืนยันดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พระโขนงต่อไปเพื่อให้รูปคดีมีความสมบูรณ์ชัดยิ่งขึ้น