รวบ แก๊งฉ้อโกงผ่านอินเทอร์เน็ต K-Cyber Banking ได้ยกแก๊ง หลังล้วงข้อมูลส่วนตัวเจ้าของร้านประดับยนต์ แล้วโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 สิงหาคม 2559 พลตำรวจตรี สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย รองผู้บังคับการ พันตำรวจเอก สุรพงษ์ ธรรมพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พันตำรวจเอก ภัทรภัทร นุชยวง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำ แก๊งฉ้อโกงผ่านอินเทอร์เน็ต K-Cyber Banking ได้ยกแก๊ง หลังล้วงข้อมูลส่วนตัวเจ้าของร้านประดับยนต์ แล้วโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง ประกอบด้วย
นายเอกพจน์ หรือเบิ้ล รัตนากร อายุ 29 ปี บ้านอยู่ 34/2 หมู่ที่ 7 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี นายพัฒนรสพงษ์ หรือค้อม ก้านสิทธิ์ อายุ 33 ปี 80 หมู่ที่ 5 ต.อี่หล่ำ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ และเยาวชนอายุ17-18 ปี อีก 4 คน รวมทั้งหมด 6 คน พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ ได้ร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ไปใช้ในการถอนเงิน บัญชีของนายพันธุ์สุธี มีลือกิจ อายุ 28 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของร้านประดับยนต์ จำนวน 986,7000 บาท ซึ่งนายพันธ์สุธี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ไว้เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม 2559 ที่ผ่านมา
ซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำการสืบเสาะติดตามแก๊งดังกล่าวจนทราบว่า แก๊งดังกล่าวได้มีที่พักอาศัยอยู่ในจังหวัดราชบุรี จึงได้นำกำลังเข้าไปทำการจับกุมได้ทั้งหมดยกแก๊ง โดยพฤติกรรมของแก๊งดังกล่าวนี้ได้ทำหน้าที่หลอกผู้เสียหายผ่านเฟซบุ๊กพร้อมขอสำเนาบัตรประชาชนหมายเลขบัญชี ชื่อผู้ใช้ในการโอนเงินผ่านอินเตอร์เน็ต โทรติดต่อ เจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อสอบถามยอดเงินผู้เสียหาย แล้วโทรติดต่อค่ายโทรศัพท์ของผู้เสียหายเพื่อแจ้งระงับสัญญาณ ก่อนที่จะเปลี่ยนขอเปลี่ยนเป็นรูปหน้าของของตนเองใส่แทนบัตรประจำตัวประชาชนของ ผู้เสียหาย และโทรเข้าระบบบัญชี K-Cyber Banking ของผู้เสียหายเพื่อขอรหัสผ่าน แล้วทำการโอนเงินหลอก ออกจากบัญชีของผู้เสียหายเข้าบัญชีของเพื่อนร่วมแก๊ง และได้รับถอนเงินออกจากบัญชี แล้วนำเงินมาแบ่งกันคนละ 200,000 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เคยกระทำผิดมาแล้ว 9 ครั้ง ในหลายๆ พื้นที่ โดยมีผู้เสียหายคือนาย พันธุ์สุธี มีลือกิจ ที่ถูกคนร้าย หลอกเงินติดต่อซื้อขายของผ่านระบบ เฟซบุ๊กที่สูญเสียเงินไปทั้งสิ้น 986,700 บาท มาชี้ตัว ผู้เสียหายได้อย่างถูกต้องและได้นำกระเช้าดอกไม้มาขอบคุณที่สามารถจับคนร้ายได้ยกแก๊ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง