ข่าว

พริตตี้สาวคนสนิท “ชูวงษ์” โผล่กองปราบ ให้ปากคำเพิ่ม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“น้องน้ำตาล” พริตตี้สาวคนสนิท “ชูวงษ์” เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับกองปราบฯ ในฐานะพยานคดีฆ่าชูวงษ์ ด้านทนายยันบริสุทธิ์

               เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ส.ค.2559 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล อายุ 26 ปี พริตตี้สาวคนสนิท นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้านที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดย น.ส.กัญฐณา ยังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.563/2558 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือรับของโจร ในคดีฉ้อโกงหุ้นของ นายชูวงษ์ เดินทางมาที่ บก.ป. พร้อมด้วย นายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความ เข้าพบ ร.ต.อ.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง สว.กก.1 บก.ป.เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานคดีฆ่านายชูวงษ์ ซึ่งทาง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว

               นายเสกสรรค์ กล่าวว่า ทาง น.ส.กัญฐณา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ตามหมายเรียกเพื่อสอบปากคำในฐานะพยานคดีฆ่านายชูวงษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนนัดหมายเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ น.ส.กัญฐณา ติดภารกิจ จึงขอเลื่อนนัดหมายการเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นวันนี้ (8 ส.ค.) ส่วนประเด็นที่จะมีการสอบสวนนั้น เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่ น.ส.กัญฐณา เข้าไปมีส่วนรับรู้ หรือเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ หรือไม่ อย่างไร รวมทั้งประเด็นที่พนักงานสอบสวนอาจยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่ยังคงเป็นการให้การในฐานะพยานในคดี

               นายเสกสรรค์ กล่าวต่อว่า สำหรับสำนวนคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์ นั้น พ้นจากอำนาจของพนักงานสอบสวนไปแล้ว จนถึงขณะนี้ทางพนักงานอัยการก็ยังไม่มีคำสั่ง หรือส่งเอกสารใดๆ มาถึง น.ส.กัญฐณา อย่างไรก็ตาม ทาง น.ส.กัญฐณา ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ในการได้รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์ ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ของ น.ส.กัญฐณา ก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ยังคงรับงานและอาศัยอยู่ที่บ้านพักใน กทม.ขณะที่บุตรชายที่อายุเกือบ 1 ขวบแล้วนั้น ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยพบและไม่ได้สอบถามเรื่องส่วนตัวของลูกความ สำหรับเรื่องคดีฆ่านายชูวงษ์ ยังมั่นใจว่า น.ส.กัญฐณา ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้คงต้องทราบประเด็นที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.กัญฐณา เสียก่อน จึงจะมีแนวทางการดำเนินการต่อไป

               รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการออกหมายเรียก น.ส.กัญฐณา เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมกับตำรวจ กก.1 บก.ป.นำกำลัง 30 นาย พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 333/94 ภายในหมู่บ้านวิสต้าปาร์คสาทร-ปิ่นเกล้า ถนนราชพฤกษ์ ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ของ น.ส.กัญฐณา โดยยึดเอกสารจำนวนหนึ่งภายในบ้านพักหลังดังกล่าวไว้ตรวจสอบ ซึ่งการสอบปากคำในครั้งนี้มีการนำเอกสารทั้งหมดมาให้ น.ส.กัญฐณา ได้ชี้แจงข้อมูลและที่มาที่ไปของทรัพย์สินต่างๆ ด้วย

               ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ภายหลังพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเสร็จสิ้น โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง น.ส.กัญฐณา ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชนที่เฝ้ารอติดตามทำข่าว ขณะที่ นายเสกสรรค์ กล่าวว่า ประเด็นที่ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.กัญฐณา ในวันนี้ เป็นการยืนยันหลักฐานเอกสารต่างๆ ได้แก่ ใบเสร็จค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ตรวจยึดมาจากบ้านพักของ น.ส.กัญฐณา ก่อนหน้านี้ เพื่อให้มีการยืนยันว่าเป็นของ น.ส.กัญฐณา ส่วนประเด็นที่พนักงานสอบสวนได้ซักถามจาก น.ส.กัญฐณา เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการได้รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีประเด็นที่เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์แต่อย่างใด

               นายเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า สำหรับรายละเอียดคดีการโอนหุ้น ที่พนักงานสอบสวนพยายามซักถามเพิ่มเติมนั้น เป็นทั้งการสอบทั่วๆ ไป และเป็นการยืนยันในเรื่องของเอกสาร ซึ่งทาง น.ส.กัญฐณา ก็ไม่ได้ให้การใดๆ เพิ่มเติม เนื่องจากได้ให้การและชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว และในส่วนของคดีโอนหุ้นนั้นก็อยู่ในชั้นอัยการแล้ว ทางตนจึงไม่อยากพูดอะไรมาก เกรงจะกระทบกับรูปคดี

               เมื่อถามว่าจากหมายเรียกพบว่าเป็นการเรียกน.ส.กัญฐณาให้ปากคำในคดีที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ซึ่งหากเป็นการซักถามเพียงคดีหุ้นนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าตำรวจมองว่าการโอนหุ้นอาจเป็นมูลเหตุจูงใจที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดย นายเสกสรรค์ บอกว่า น่าจะเป็นแนวคิดของพนักงานสอบสวนที่คิดเช่นนั้น คาดว่าพนักงานสอบสวนพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ก่อนและขณะกระทำความผิด ว่า น.ส.กัญฐณา อาจจะมีส่วนเชื่อมโยง อย่างไรก็ตามยืนยันว่า น.ส.กัญฐณา ไม่ได้เชื่อมโยง หรือรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์แต่อย่างใด และก็ไม่พบพยานหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่า น.ส.กัญฐณาเชื่อมโยงด้วย

               ผู้สื่อข่าวยังถามถึงความสัมพันธ์ของ น.ส.กัญฐณา กับนายชูวงษ์ และความสัมพันธ์ของ น.ส.กัญฐณา กับพ.ต.ท.บรรยิน ว่าเป็นอย่างไร นายเสกสรรค์ ตอบว่า ยังยืนยันความสัมพันธ์ตามคำให้การเดิม ที่เคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ไม่ขอชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากให้การไปหมดแล้ว รวมทั้งเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ