‘หญิงไก่’ใจบุญรับดูแลเด็กชาวเขาจ่อพันค้ามนุษย์

           1ก.ค.2559 จากกรณีนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์  ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย วัย 19 ปี นิสิตปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ภายหลังถูกบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นคุณหญิง(ไก่) ซึ่งเป็นนายจ้างของตัวเองและพ่อแม่ แจ้งความดำเนินคดีลักทรัพย์โดยระบุ มีทรัพย์สินสูญหาย 11 รายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2558นั้น

           เมื่อเวลา 15.00 น.นายศรีสุวรรณ  สรศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาบดีและหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวแม่ฮ่องสอน เดินทางเข้าให้ข้อมูลตำรวจกองปราบปราม สืบเนื่องจากหญิงไก่เคยรับอุปการะเด็กหญิงในหมู่บ้านชาวเขาเผ่าปกากะญอ พื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมเปิดเผยข้อเท็จจริงว่า  เคยพบเจอกับหญิงไก่ 2 ครั้ง ซึ่งมักอ้างตัวเองว่า เป็นคุณหญิง และมีหลายชื่อ คือ คุณหญิงมณตา และคุณหญิงสุชาดา โดยให้ทุกคนเรียกว่า คุณหญิงไก่  

           “ตอนนั้นเจอกันครั้งแรกที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์  ซึ่งครั้งนั้นคุณหญิงไก่  เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน้องหนูนาและแฟนหนุ่ม  และครั้งที่ 2 เจอที่ศูนย์ประชาบดี จ.แม่ฮ่องสอน  ที่ผ่านมาได้รับทราบข้อมูลของคุณหญิงไก่จากชาวบ้านพื้นที่แม่ฮ่องสอนว่า นางไก่หรือคุณหญิงไก่ อ้างตัวว่าเป็นใจบุญรับเลี้ยงเด็กหญิงในหมู่บ้านชาวเขาเผ่าปกากะญอ  บอกกับพ่อแม่เด็กว่า จะเลี้ยงดู ส่งเรียนหนังสือ ซึ่งทุกครั้งจะให้เงินกับพ่อแม่เด็กเสมอ  เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.จันทนา หรือ หนูนา คชคงไทย ผู้หญิงในหมู่บ้านชาวเขาเผ่าปกากะญอ พื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน  มีการนำเงิน 1 หมื่นบาทไปให้กับครอบครัวหนูนา  แต่แม่เขาไม่รับ  แต่คุณหญิงไก่ก็เอาเงินยัดใส่มือ บอกเอาไว้ซ่อมบ้าน  เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมามีเด็กหญิงและผู้หญิงในหมู่บ้านไปทำงานกับหญิงไก่ จำนวน 6 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี 5 คน และอายุ 21 ปี 1 คน  ต่อมาเกิดเรื่องแจ้งความฟ้องร้องกับหนูนา  เด็กๆเลยพากันหนีกลับบ้าน  ยกเว้นหนูนา ที่ถูกหญิงไก่ แจ้งความ ลักทรัพย์จากการสอบถามเด็กทราบว่า หญิงไก่ มีพฤติกรรมข่มขู่ ยัดข้อหา และพยายามพาออกนอกประเทศ จึงเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ประชาบดี แต่เด็กไม่กล้าแจ้งความ  เพราะกลัวอิทธิพลหญิงไก่” นายศรีสุวรรณกล่าว 

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากการสืบสวนสอบสวนของพนักงานสอบสวนกองปราบปราม พบข้อมูลพฤติกรรมหญิงไก่ที่มักจะดำเนินคดีกับลูกจ้างที่ไม่ยอมทำตามที่สั่ง รวมทั้งกรณีของ น.ส.จันทนา หรือ หนูนา คชคงไทย ที่แอบไปคบแฟนหนุ่มและหนีมาแต่งงาน  ซึ่งเจ้าตัวแจ้งว่า เหตุที่หญิงไก่แจ้งความ เพราะโกรธไม่ต้องการให้เด็กที่ดูแลไปแต่งงาน  เหมือนเป็นการไม่เชื่อฟัง หยามศักดิ์ศรี โดยหญิงไก่เคยพูดต่อว่าชายหนุ่มว่า จะขอหนูนาแต่งงานทำไมไม่ยอมบอก เพราะได้ซื้อหนูนามากับแม่ของเขามาแล้วในราคา 1 หมื่นบาท

           ด้านนางสุภัชชา สุทธิพล รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ น.ส.จันทนา (หนูนา)ยังอยู่ในอาการหวาดกลัวอยู่ เกรงว่า ตัวเองจะไม่ปลอดภัย ทางกระทรวงฯได้ให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกตามที่ร้องขอ  ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก โดยจัดที่พักให้รวมถึงกรณีของ น.ส.ประพาวรรณ หรือก้อย  ใจกล้า ที่ถูกหญิงไก่ แจ้งความลักทรัพย์กว่า 10 ล้านบาทด้วย  

           ส่วนกรณีหนูนาที่อ้างว่าถูกกักขัง ไม่ให้ติดต่อกับครอบครัว ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า เข้าข่ายความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวจึงยังไม่สามารถเอาผิดผู้ถูกกล่าวหาได้  เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เจ้าตัวยังสามารถออกไปข้างนอกและกลับบ้านได้   ส่วนหญิงไก่จะมีความผิดเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ กรณีนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาทำงานและพยายามนำเด็กเดินทางออกต่างประเทศ อยู่ระหว่างการตรวจสอบก่อน

ครอบครัวน้องก้อยให้ปากคำเพิ่มเติม 

           เมื่อเวลา 16.00 น. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม พร้อมด้วยนายสงกรานต์  อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ นายชูเกียรติ ใจกล้า  นางประภาพร ทองเฟื่อง  น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย (พ่อแม่ลูก) และ น.ส.วณิชยา หรือน้องมีน บุ้นสุนเฮง  ซึ่งเป็นบุตรสาว น.ส.สุกัญญา ศิริม่วง ที่ถูกหญิงไก่ แจ้งจับคดีลักทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างจำคุก เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เจ้าของคดีที่หญิงไก่แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับอดีตลูกจ้าง 3 คน(พ่อแม่ลูก)พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติมทางดคีและยื่นเรื่องประกันตัว

           นางมยุรี จำจรัส ผอ.กองทุนยุติธรรมฯ เป็นตัวแทนให้การช่วยเหลือตามมาตรา 29 พรบ.กองทุนยุติธรรม พ.ศ.2558  นำเงินมาประกันตัวกรณีผู้ต้องหาที่ยากจน  ไม่มีเงินยื่นประกันตัว  เป็นเงินจากกองทุนยุติธรรมที่ผ่านการพิจารณาแล้ว  ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวพ่อและแม่น้องก้อย คนละ 100,000 บาทรวมเป็นเงิน 200,000 บาท ส่วนคดีน้องก้อยนั้น มีการส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาแล้ว หากอัยการมีคำสั่งฟ้องทางกองทุนฯจะยื่นเรื่องประกันตัวในชั้นศาลต่อไป