หมาข่มขืนหมา...ใครผิด?

            จากกรณีที่เจ้าของสุนัขเพศเมียอายุ 3 ขวบ เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.สมุทรปราการ ว่า สุนัขพันธ์ชิสุ ของตนที่เพิ่งทำหมัน ถูกสุนัขเพศผู้ของเพื่อนบ้านเข้าไปข่มขืนถึงในบ้าน จนสุนัขของตนอาการแย่ลง โดยแพทย์ระบุว่ามีอาการเลือดตกใน ต้องพาไปรักษา ขณะที่สังคมวิจารณ์เจ้าของหมาอยากดัง เอาหมามาหากินจริงหรือ ? และจะเอาผิดทางคดีกันอย่างไร ดังนั้น เมื่อค่ำวันที่ 10 มีนาคม รายการ “คม ชัด ลึก” จึงจัดเสวนาในหัวข้อ หมาข่มขืนหมา...ใครผิด?

            ศิลาพร เรืองสิทธิกุล เจ้าของสุนัขพันธ์ชิสุ เพศเมียที่ชื่อน้องเอ๋ กล่าวว่า มีสุนัขเพศผู้ของเพื่อนบ้านมักจะเข้ามาหาเอ๋เสมอ ก็ปรึกษากับลูกสาวว่าจะพาไปทำหมัน จากนั้นเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม ก็พาไปทำหมัน ต่อมาวันอังคารที่ 8 มีนาคม กลางวันก็ไปทำงานกันหมดไม่มีใครอยู่บ้าน น้องเอ๋ก็ไปอยู่กับน้องสาวที่ขายอาหารตามสั่งอยู่หน้าบ้าน ขณะที่มีลูกค้ามาสั่งอาหาร พอน้องสาวไปทำอาหาร เมื่อหันกลับมาดูอีกครั้ง ปรากฏว่า น้องเอ๋ไม่อยู่บนเตียงผ้าใบ แต่ไปอยู่ตรงประตูภายในเขตบ้าน ถูกสุนัขของเพื่อนบ้านเข้ามาผสมพันธุ์ ขณะนั้น สุนัขเพศผู้ตกใจก็วิ่งหนีข้ามถนนไปใต้ตึก โดยลากน้องเอ๋ไปด้วย หลังจากหลุดจากกัน น้องเอ๋ก็ชัก อ้วก ขับถ่าย เกร็ง ส่งเสียงร้อง หลังจากนั้นก็พาน้องเอ๋ไปหาหมอ หมอบอกว่า น้องเอ๋เลือดตกใน

            ต่อมาก็ไปเจรจากับเจ้าของสุนัขเพศผู้ ว่า จะให้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล เพราะค่าใช้จ่ายคืนละ 1,000 บาท แต่กลับตกลงกันไม่ได้ และยังบอกว่า หากจะเอาเรื่องให้ไปแจ้งความ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้เอาผิดเจ้าของสุนัขเพศผู้ ที่ไม่ดูแลให้ดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลงบันทึกประจำวันไว้

            ที่จริงไม่ใช่ว่าจะให้เขาออกค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด บางส่วนก็ได้ ทั้งๆ ที่สนิทกัน แต่กลับต้องมาทะเลาะกันด้วยสุนัขเป็นเหตุ และจากคำพูดของเจ้าของสุนัขเพศผู้ ตลอดจนสังคมออนไลน์ ทำให้รู้สึกเสียใจ เจ็บใจ ตอนนี้ไม่ต้องการให้ช่วยเหลือแล้ว จ่ายเองทั้งหมด ไม่ได้นำสุนัขมาหากิน

            ธิดาพร เรืองสิทธิกุล ลูกสาวศิลาพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้น้องเอ๋เคยตั้งท้อง ด้วยความที่สงสารน้องเอ๋ หากท้อง เวลาคลอดลำบากมาก น้องเอ๋จะไม่ค่อยยอมเบ่ง เอาแต่ส่งเสียงร้อง ต้องช่วยกันทำคลอดให้ จึงไม่อยากให้น้องเอ๋ท้องอีก ก็เลยพาไปทำหมัน

            สพญ.ภาษร ภูผา สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลเดอะเวท อุดมสุข 42 กล่าวว่า การทำหมันในสุนัขไม่เหมือนกับคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนเกิดเหตุน้องเอ๋เพิ่งทำหมัน ขณะที่สุนัขเพศผู้ตัวใหญ่ ขณะที่น้องเอ๋ เป็นพันธุ์เล็ก อวัยวะเพศจะไม่เหมาะสมกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการฉีกขาดภายใน อาจจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือด และอาจจะเกิดภาวะช็อกได้

            โดยปกติแล้ว สุนัขเพศเมีย ช่วงที่เป็นสัด จะเป็นช่วงที่ยอมให้ผสมพันธุ์ได้ แต่ในช่วงที่ไม่เป็นสัด หากมีสุนัขเพศผู้มาหาแล้วใช้กำลังพยายามผสมพันธู์จนได้ ตรงนี้เท่ากับการข่มขืนในคน

            พ.ต.อ.ปรีชา เอี่ยมนุ้ย ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า จากการสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ทราบว่า เชิญทั้งคู่มาเจรจากันแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้ เรื่องนี้เป็นความเสียหายเกิดจากการละเมิด ซึ่งตามกฎหมายแพ่งระบุว่า ความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ เจ้าของ หรือผู้เลี้ยงรับรักษาแทนเจ้าของ จะต้องเสียค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหาย อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายต่างก็รักสุนัขเหมือนกัน ดังนั้น ในวันที่ 11 มีนาคม จะเชิญทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน เพื่อหาข้อยุติ

            กรณีดังกล่าวเจ้าของสุนัขเพศผู้ไม่เข้าข่ายมีความผิด ทำได้เพียงการลงบันทึกประจำวัน

            วันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า ในแง่ของกฎหมาย ดำเนินคดีอาญาไม่ได้ แต่ดำเนินคดีทางแพ่งได้ เพราะคนเป็นเจ้าของสุนัขจะต้องระมัดระวังไม่ให้สุนัขของตัวเองไปก่อให้เกิดความเสียหาย

            โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ไปฟ้องร้องกัน ไม่ควรจะนำเอาเรื่องของสุนัขมาเป็นเหตุของความร้าวฉาน ไม่คุ้ม เป็นสุนัขของตัวเองจริง อะไรที่พอจะช่วยเหลือกันได้น่าจะช่วยกัน ถนอมน้ำใจกันไว้ดีกว่า