ตั้ง 2 ประเด็น ไฟไหม้เรือยอชท์หรูภูเก็ต

 

               วันที่ 7 สิงหาคม 2562 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเหตุเรือยอชท์ Lady D ซึ่งจอดเทียบอยู่ที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอ แกรนด์มารีน่า ต.ป่าคลอก เกิดเพลิงลุกไหม้ในพื้นที่ สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า ได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.ถลาง วันนี้ 7 ส.ค.62 เวลาประมาณ 08.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ถลาง ได้รับแจ้งเหตุเรือยอร์ช Lady D ซึ่งจอดเทียบอยู่ที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า ต.ป่าคลอก เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรีบไปที่เกิดเหตุ พบเรือยอชท์ Lady D เกิดเพลิงลุกไหม้อยู่ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังฉีดน้ำควบคุมเพลิง ในขณะนี้เบื้องต้นไม่พบมีผู้ใดอยู่บนเรือ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

 

 

 

               พนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงรีบไปตรวจที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

               รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าต้นเหตุในการเกิดเพลิงไหม้อาจเกิดจากระบบไฟฟ้าในเรือเกิดขัดข้อง และระบบความร้อนสะสมในตัวเรือ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

               ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ในการช่วยเหลือประชาชน ระงับเหตุเพลิงไหม้ อพยพประชาชนออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็วและปลอดภัย อีกทั้งยังได้กำชับพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความในการหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน สนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวในทุกมิติแก่พนักงานสอบสวน ดำเนินการบูรณาการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อถือได้

 

 

-----------------------------------------------------------------

(ขอบคุณภาพจาก FB : เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต Newshawk Phuket)