"ไพบูลย์" ยัน "สยามเมืองยิ้ม" มีคุณค่า

           15 ก.พ.62 - จากกรณีที่เป็นกระแสวิจารณ์ "นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่ง  ถึงเรื่องของ "Land of smile" ว่า "เมืองไทยที่เป็น Land of smile... ผมมานั่งคิดว่าทำไมเราถึงยิ้ม ก็เพราะคนไทยไม่มีจุดยืนเรื่องอะไรเลย เมื่อโดนถามเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอบไม่ได้ ทำได้อย่างเดียวคือยิ้ม คนไทยเป็นคนที่ไม่มีจุดยืน แม้แต่ในเรื่องที่สากลเขายอมรับกัน อย่างเช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน"   นั้น

      นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป  กล่าวว่า ในทางการเมือง ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่อยากไปวิจารณ์หัวหน้าพรรคการเมืองอื่น การที่ไทยได้รับสมญา นามว่า "สยามเมืองยิ้ม"  ก็เพราะวัฒนธรรมชาวพุทธของเรา ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าก็สอนให้คิดบวก มีจิตใจที่ดีต่อกัน เอื้ออาทรเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชาวต่างชาติได้พบเห็น ได้สัมผัสกับความเอื้ออาทร ที่เป็นความรู้สึกที่ดีให้เขา โดยเป็นลักษณะเฉพาะของคนไทยที่ไม่เหมือนคนชาติอื่นก็รู้สึกดีกับสังคมไทยที่มีความอ่อนโยน เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็ง พลังบวก และเมื่อมาในยุคนี้ที่มีความเคร่งเครียด มีการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายชิงดีชิงเด่นกัน ก็ทำให้สังคมวิปลาสเกิดความขัดแย้งกัน สร้างความรุนแรงเกลียดชัง

             " การที่เราถูกเรียกว่า ยิ้มสยาม เป็นวัฒนธรรมไทย ไม่ใช่เรื่องของความไม่รับผิดชอบ แต่เป็นเรื่องแสดงออกถึงจิตใจที่ดีงาม เป็นการแสดงออกถึงบุคลิก คนที่ชอบยิ้มก็แสดงให้เห็นถึง EQ สูง ไม่ได้หมายความว่าคนที่ชอบยิ้มทักทาย จะทำงานแล้วไม่ประสบความสำเร็จ แต่กลับจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จสูงเพราะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี   โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมยุคใหม่นี้ทั้งโลกก็พบแล้วว่ามีปัญหา "เมื่อเรามีสิ่งที่ดีอยู่กับตัวแล้ว ก็ต้องส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก และจะดียิ่งขึ้นเมื่อน้อมนำคำสอนพระพุทธเจ้ามาศึกษาให้มากกว่านี้ ก็จะดำรงรักษาความเป็น 'สยามเมืองยิ้ม' ให้เป็นที่ประทับใจของต่างชาติยิ่งขึ้น ที่สำคัญเราเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นอุปนิสัยของคนในชาติก็จะเป็นส่วนหนึ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นต้องสนับสนุนวัฒนธรรมนี้ให้มีเพิ่มขึ้นและตลอดไป ไม่ใช่แค่รักษาไว้เท่านั้น ต้องให้เป็นวัฒนธรรมของชาติ" นายไพบูลย์ หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ระบุ