วิธีคิดธุรกิจกาแฟ"อาข่า อาม่า"

               ในงานเกษตรแฟร์ประจำปี 2562 ผมได้มีโอกาสได้เข้าฟังการบรรยายพิเศษของ ลี อายุเจอปา ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการกาแฟอาข่า อาม่า ที่มาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับวิธีการในการทำธุรกิจกาแฟจนเป็นที่รู้จักกันไปในวงการคอกาแฟทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ฟังแล้วก็รู้สึกทึ่งไปกับวิธีคิดในการทำธุรกิจของคนหนุ่มอายุน้อย อีกทั้งยังเป็นชาวเขาแต่มีวิธีคิดที่ไม่ธรรมดาจนสามารถทำให้กาแฟกลายเป็นความภูมิใจและกลายเป็นธุรกิจที่หล่อเลี้ยงชุมชนของตนเอง ซึ่งน้อยคนนักที่จะคิดและทำแบบนี้ได้ถ้าไม่ได้มีต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสนับสนุนมาแต่แรก

             ลี อายุเจอปา เป็นคนหนุ่มที่มีความฝัน แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้ฝันเป็นเพียงแค่ฝัน คือกล้าที่จะทำตามฝันโดยมองข้ามเรื่องของความล้มเหลวไป ซึ่งคนส่วนใหญ่พอคิดฝันจะทำอะไรก็มักจะคิดไปคิดมาก็จะเป็นการตีกรอบตัวเองจนท้ายที่สุดไม่สามารถจะทำอะไรต่อไปได้ คุณลีนั้นมองว่าตัวเองเป็นชาวเขา ดังนั้นเรื่องของโอกาสดีๆ ที่จะวิ่งเข้ามาหาตัวเขานั้นจึงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการวิ่งเข้าหาโอกาสจึงเป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง 

            คนรุ่นใหม่มักจะมีวิธีคิดใหม่ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และมีแนวทางในการทำงานใหม่ๆ แต่ขาดความพร้อมในเรื่องของประสบการณ์และเงินทุนสนับสนุน โดยถ้าดูจากสถานการณ์ปัจจุบันธุรกิจที่เป็นพวกสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็จะเป็นฝีมือของคนรุ่นใหม่เกือบทั้งสิ้น ทั้งนี้ก็เกิดขึ้นจากนวัตกรรมทางความคิดที่แปลกใหม่แต่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม

            ในมุมมองของคุณลีเอง มองว่ากาแฟเป็นเรื่องของชุมชนและสังคม รวมถึงเป็นความภาคภูมิใจของตนเอง ดังนั้นจึงมีความสนใจในเรื่องของกาแฟ โดยเริ่มที่จะศึกษาและหาโอกาสเกี่ยวกับเรื่องของกาแฟ ทั้งในด้านการศึกษา และโอกาสในการพบเจอผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟในระดับโลกจากความพยายามในการวิ่งหาโอกาสด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นโอกาสที่ไม่สูญเปล่า จึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของกาแฟตั้งแต่เรื่องราว การผลิต การตลาด และเรื่องของกาแฟกับการช่วยเหลือดูแลสังคม ซึ่งเป็นความโชคดีของคุณลีที่ได้เรียนรู้และสัมผัสกับเรื่องของกาแฟในระดับโลกเลยทีเดียว 

           จากตรงนี้เองก็เป็นการเริ่มต้นเกี่ยวกับการเข้ามาทำธุรกิจกาแฟอย่างจริงจัง โดยกลับมาเริ่มต้นจากชุมชนและสังคมของตนเอง โดยเริ่มตั้งแต่การปลูกจนถึงเรื่องการตลาด โดยได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาในระดับโลกแต่เอามาทำระดับท้องถิ่นเพื่อพัฒนาเรื่องของกาแฟควบคู่กันไปทั้งชุมชนและผลิตภัณฑ์กาแฟในแบรนด์ อาข่า อาม่า ซึ่งเป็นเป็นการตอกย้ำความเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นตัวตนและที่มาของจุดเริ่มต้น ผมว่าฟังชื่อแล้วก็ทำให้คนที่พบเห็นสามารถนึกถึงที่มาของกาแฟได้เป็นอย่างดีเลย 

         นอกจากนี้ด้วยการมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนวงการกาแฟในต่างประเทศก็ยิ่งช่วยให้กาแฟอาข่า อาม่า เป็นที่รู้จักกันไปถึงในต่างประเทศ ทำให้นอกเหนือจากการผลิตกาแฟขายในประเทศแล้วก็ส่งออกไปต่างประเทศด้วยเช่นกัน คุณลีเองได้บอกว่าเดี๋ยวนี้การทำตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยทุกวันนี้เป็นโลกไร้พรมแดน การใช้ e-commerce และ social commerce ในการให้ข้อมูลสินค้าให้โลกรู้จักและรับการสั่งสินค้าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก 

           เพียงแต่ต้องสามารถผลิตของดีมีคุณภาพได้ตามปริมาณการสั่งซื้อ บวกกับการรักษาคุณภาพและชื่อเสียงเอาไว้ให้ได้ และท้ายที่สุดเรื่องความภูมิใจและความสุข ความกินดีอยู่ดีของเกษตรกรผู้ผลิตในชุมชนและสังคมรวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพก็เป็นเรื่องที่ต้องมีควบคู่กันไปด้วยครับ