"ฝนหลวง"ช่วยฟื้นนาข้าวหอมมะลิ พื้นที่ทุ่งกุลาสำเร็จ กว่า 6 แสนไร่"หลังประสบภาวะฝนทิ้งช่วง
12 กรกฏาคม 2561 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่าได้มอบหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์เร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่ทุ่งกุลาที่กำลังประสบภาวะฝนทิ้งช่วง
ทั้งยังเริ่มส่อเค้าวิกฤติการขาดแคลนน้ำ ทำให้มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ ประมาณ 612,500 ไร่ คิดเป็น 29% ของจำนวนพื้นที่ทุ่งกุลา 2.1 ล้านไร่
ปัจจุบันสภาพอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณการกระจายตัวของฝนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ บริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 5 จังหวัด ประกอบด้วย เขตติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ และมหาสารคาม รวมกว่า 2.1 ล้านไร่ ซึ่งได้รับผลกระทบด้านการขาดแคลนน้ำในภาวะค่อนข้างวิกฤติ
ทั้งนี้ได้ปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับความต้องการใช้น้ำในภาคเกษตร โดยได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์ ที่สนามบินสุรินทร์ภักดี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพิ่มเติม 1 หน่วย ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนหลักในพื้นที่รับผิดชอบทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย
จากการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 11 ก.ค.หน่วยปฏิบัติการฯ จังหวัดสุรินทร์ ได้ขึ้นปฏิบัติการ 3 ภารกิจ 6 เที่ยวบิน ตามตำราฝนหลวงพระราชทาน ประกอบด้วย ภารกิจที่ 1 ขั้นตอนที่ 1 ก่อกวน บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ถึงอำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด ภารกิจที่ 2 ขั้นตอนที่ 2 เลี้ยงให้อ้วน บริเวณอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ถึงอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
ภารกิจที่ 3 ขั้นตอนที่ 3 โจมตี บริเวณทิศใต้ อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด ถึงอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณอำเภอปทุมรัตน์ เกษตรวิสัย สุวรรณภูมิ โพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด และอำเภอท่าตูม รัตนบุรี โนนนารายณ์ สนม สำโรงทาบ ศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ หลังการปฏิบัติการฯ ทำให้จังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ ประมาณ 612,500 ไร่ คิดเป็น 29% ของจำนวนพื้นที่ทุ่งกุลา 2.1 ล้านไร่
อย่างไรก็ตาม ยังปฎิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรตามที่ได้รับการร้องขออย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย และเกษตรกรสามารถแจ้งขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในทุกภูมิภาคของประเทศ และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทาง www.royalrain.go.th เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และการรายงานข่าวการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง