ข่าว

กล้วยไม้กับความรักไร้พรมแดน ตอน1

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - ศ.ระพ สาคริก

 ชีวิตกับกล้วยไม้ที่ฉันนำปฏิบัติมาแต่อดีต มันมีความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่าสิ่งที่เธอทั้งหลายมองเห็น สิ่งนั้นก็คือ “กล้วยไม้พันธุ์ ซึ่งฉันตั้งชื่อว่า ความรักในเพื่อนมนุษย์” ซึ่งเท่าที่จำความได้มันเกิดขึ้นภายในจิตวิญญาณของฉันเอง ตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ.2490 ซึ่งฉันเลือกทางเดินของชีวิตโดยมุ่งออกไปสู่ชนบทที่ใคร ๆ รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ขาดความเจริญ แม้แต่กระแสไฟฟ้าก็ยังไม่มี แถมยังมีไข้ป่าชุกชุมอีกด้วย

ก่อนอื่นฉันขอบอกว่า การพัฒนาและส่งเสริมเรื่องกล้วยไม้ให้บังเกิดผลในทุกๆ ด้าน ฉันจำเป็นจะต้องเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากการปฏิบัติจริง ดังจะเห็นได้ว่าในขณะนี้เกษตรกรที่สามารถขายผลิตผลของตัวเองได้อย่างเด่นชัด น่าจะได้แก่เกษตรกรชาวสวนกล้วยไม้

ดังนั้นฉันจึงต้องศึกษาเรื่องการค้ากล้วยไม้จากของจริง ดังจะพบผลการปฏิบัติได้จากการที่ฉันเรียบเรียงหนังสือเรื่อง “การปลูกกล้วยไม้เป็นการค้า” ในปีพ.ศ.2546 จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความหนาถึงเกือบ 500 หน้า ดังนั้นการที่ฉันใช้ชีวิตขายกล้วยไม้ในช่วงเริ่มแรก จึงมีวัตถุประสงค์หลัก ๆ อยู่บางประการคือ

1) ต้องการศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับเงื่อนไขที่แฝงอยู่ในคน เพื่อจะได้สอนให้คนฉลาดขึ้น

2) เพื่อนำหลักการปฏิบัติในการค้าขายกล้วยไม้ ออกมาส่งเสริมเผยแพร่

3) รายได้ที่ได้มา ฉันจะนำไปเก็บไว้ใช้จ่ายในงานส่งเสริมกล้วยไม้ ซึ่งเธอคงไม่ลืมว่าจากช่วงเริ่มต้นจับงานนี้ ประมาณปีพ.ศ.2490 มาจนกระทั่งถึงปีพ.ศ.2530 นอกจากรัฐจะไม่สนับสนุนแล้วยังต่อต้าน เพราะคนในภาครัฐก็คือคน และคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ก็มีความคิดเห็นที่ไม่ลึกซึ้ง จึงมองว่ากล้วยไม้เป็นพืชทำลายเศรษฐกิจ เนื่องจากขณะนั้นกลุ่มคนมีเงินนำกล้วยไม้มาเล่น หาใช่นำมาคิดค้นวิธีการที่ทำให้กล้วยไม้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจได้ไม่ ดังนั้นนอกจากฉันยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวแล้ว ก็ยังถูกขวางโดยภาครัฐ

4) ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนปีพ.ศ.2490 ก็มีพ่อค้าที่เก็บกล้วยไม้ป่าส่งขายต่างประเทศรายใหญ่อยู่ในประเทศไทย ถ้ามองในแง่ดีก็คือ พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งสะท้อนให้ฉันเห็นว่า คนไทยเก็บกล้วยไม้ป่าไปขายต่างประเทศในราคาถูก แล้วก็นำกล้วยไม้ลูกผสมสำเร็จรูปจากต่างประเทศเข้ามาขายคนไทยในราคาสูง ถ้าไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว อาจไม่มีพลังกระตุ้น ให้ฉันจับงานกล้วยไม้อย่างจริงจังก็ได้

ดังนั้นการกระทำของฉัน เพื่อหวังกอบกู้อิสรภาพให้กับวงการกล้วยไม้ไทย จึงเป็นเรื่องที่ขัดผลประโยชน์ของพ่อค้ากล้วยไม้รายใหญ่ ทำให้ถูกใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอด จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2505 ฉันเริ่มต้นขายกล้วยไม้ตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้ว่าฉันทำเพื่ออะไร แถมยังมีบางคนพูดตำหนิว่า “อาจารย์ระพี จริงๆ แล้วก็เป็นคนขายกล้วยไม้เหมือนกับคนอื่น” แต่ฉันก็ถือขันติโดยไม่พูดโต้เถียงใครทั้งนั้น เพราะรังแต่จะผิดใจกันเปล่า ๆ

แท้จริงแล้วฉันต้องการใช้กล้วยไม้เป็นสื่อการเรียนรู้ถึงความรักที่อยู่ในจิตวิญญาณของฉันเอง ซึ่งสานถึงวิญญาณความรักในเพื่อนมนุษย์อย่างเป็นธรรมชาติ แล้วหวนกลับมารู้ถึงความจริงที่อยู่ในใจตนเองได้ในที่สุด

ปกติฉันถือหลักอย่างหนึ่งว่า “ตนจะต้องมุ่งมั่นนำศาสตร์ทุกสาขามาเชื่อมโยงถึงกันอย่างรู้เหตุรู้ผล แม้แต่ความหลากหลายที่อยู่ในดวงวิญญาณความรักของแต่ละคนแทบจะทั่วโลก แม้มีความแตกต่างที่ไม่เพียงแต่ความคิดและการปฏิบัติ หากยังมีความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติของแต่ละท้องถิ่น”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ