ข่าว

กรุงนิวเดลี ตอน1

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - ศ.ระพี สาคริก

หวนกลับไปนึกถึงช่วงที่ฉันถูกส่งตัวไปศึกษาวิชาสถิติและการวางแผนงานวิจัยที่ประเทศอินเดียเมื่อปี 1957 ในขณะนั้นหลายคนมักแสดงออกด้วยแนวโน้มที่กล่าวกันว่าวิชานี้มันยากแสนยาก เรียนก็ไปได้ยาก รับการอบรมก็ไปได้ยาก แถมมีหมาในขุดรูอยู่ในสถานที่อบรมจนเป็นโพรงด้วยเลยยิ่งยากไปใหญ่ มีศาสตราจารย์จากประเทศอังกฤษมาเป็นหัวหน้าครูสอน

ส่วนแขกก็แสดงความยิ่งใหญ่ เพราะแขกส่วนใหญ่มีนิสัยชอบคุยโว มองคนชาติอื่นด้วยหางตาอย่างดูถูกดูแคลน แต่ไม่ได้มองดูตัวเองว่าเป็นใคร ชีวิตคนเรานั้นถ้าดูถูกคนอื่น คนอื่นก็มองเห็นว่าคนพวกนี้ดูถูกตัวเอง เพราะฉะนั้นพอแขกลุกขึ้นมาถาม อาจารย์ก็เงี่ยหูฟัง ฟังเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่อง ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่รู้เรื่องใหญ่ นี่แหละที่เป็นสันดานของแขก

ส่วนคนไทยนั้นก็นั่งนิ่งฟังเฉยๆ โดยไม่ออกความคิดเห็นอะไรมากนัก แต่อาจารย์ถามแขกว่า “เธอว่ายังไงนะ” เล่นเอาคนทั้งชั้นหัวเราะเยาะอย่างสมน้ำหน้า แขกจึงรีบเดินหนีไป ส่วนฉันเองเป็นคนไม่พูดมากนัก ไม่ว่ามีอะไรเราก็นั่งเงียบเพียงรับฟังอย่างเดียวก็ได้มากแล้ว คนทั่วไปเขาถึงได้พูดว่า “ถ้าเจอะแขกกับงู ให้ตีแขกก่อนตีงู” นี่เป็นภาษิตโบราณของเรา เพราะแขกคุยโวนี่แหละที่ทำให้ความรู้หดหาย

 ฤดูกาลที่นิวเดลีนั้น หน้าร้อนมันร้อนเอาจริงๆ และหน้าร้อนเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤษจิกายนเป็นต้นไป กุหลาบเริ่มดอกใหญ่ให้เห็นและชื่นชมได้เป็นพิเศษ จะเห็นได้ว่าดอกกุหลาบภายในสวนที่เขาตกแต่งให้สวยงามนั้น วันที่เราเดินทางไปถึงกรุงนิวเดลี ปรากฏว่ากุหลาบที่นั่นสีซีด จึงไม่มีใครสนใจ พอฤดูกาลมันเข้าอากาศเย็นอุณหภูมิของอากาศก็ลดลงไปจนกระทั่งหนาวเหน็บ

ฉันสังเกตเห็นบนหลังคารถยนต์เต็มไปด้วยแม่คะนิ้ง หรืออีกนัยเต็มไปด้วยน้ำแข็งเกาะอยู่บางๆ และดอกกุหลาบที่มันอยู่ในสวนเต็มไปหมดอันเคยเป็นกุหลาบกลีบลา ซึ่งหมายถึงกลีบไม่ซ้อน ครั้นพอฤดูหนาวมันผ่านเข้ามาสู่ชีวิต กุหลาบเหล่านั้นดอกมันโตขึ้นมาก อีกทั้งช่อดอกแทนที่จะมีเพียง 2-3 ดอก มันได้กลับกลายเป็นกุหลาบที่งามมาก

หลังจากขับรถไปเยี่ยมงานที่ต่างๆ ได้ไม่นาน กุหลาบเหล่านั้นมันก็กลายเป็นช่อใหญ่ๆ และโตกว่าพันธุ์ธรรมดาถึง 2-3 เท่าตัว ฉันตื่นเต้นมากที่เคยเห็นสิ่งที่ปลูกเอาไว้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากผลกระทบโดยสิ่งแวดล้อม 

นี่แหละคือบรรยากาศที่เรียกกันว่ากรุงนิวเดลีของประเทศอินเดีย ที่เมืองนี้มีศูนย์รวมใจของคนไทยอยู่แห่งหนึ่ง สิ่งนั้นก็คือมีร้านขายหมูอยู่เพียงร้านเดียว ผู้ใหญ่ที่ไปรับการอบรมจึงไปไหนไม่รอด นอกจากไปรอพบคนไทยที่มาซื้อหมู

  เหตุใดฉันจึงต้องนำเรื่องนี้มาเขียน เพราะเหตุว่าฉันต้องการบอกให้รู้ว่ามีอะไรอยู่ที่ไหน เพราะคนไทยส่วนใหญ่จะไปไม่รอด ถ้าไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้ ถ้าตั้งมั่นอยู่ในความเป็นตัวของตัวเอง มันก็เหมือนกับให้เราส่วนหนึ่งของสังคมไปได้โดยง่าย จากนั้นฉันเคยไปเดินอยู่แถวคอนอร์ธเลส ซึ่งเป็นสถานที่ที่แขกใช้เป็นศูนย์กลางของกรุงนิวเดลี ปกติฉันเป็นคนโอภาปราศรัยและมีน้ำใจให้กับทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงให้ความรักแก่ฉันเป็นประจำ!

                                                 **********************************

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ