ตะลุยองุ่นแปลงใหญ่ ชิม“ไวท์มะละกา” ที่ดำเนินสะดวก

      องุ่นเขียวพันธุ์ “ไวท์มะละกา” ไม้ผลขึ้นชื่อและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรใน อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มาอย่างยาวนาน แต่นับวันพื้นที่ปลูกเหลือน้อยลงทุกที เนื่องจากการดูแลยาก ต้นทุนสูงและมีพืชชนิดอื่นที่สร้างรายได้ดีกว่ามาทดแทน ด้วยเหตุนี้ทำให้สหกรณ์จังหวัดราชบุรีเห็นความสำคัญและต้องการอนุรักษ์องุ่นชนิดนี้ไว้ จึงนำระบบเกษตรแปลงใหญ่เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ หวังให้องุ่นพันธุ์ดีกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

     “ท่องโลกเกษตร” อาทิตย์นี้มุ่งหน้าสู่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี กับอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ "วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุ" และคณะเพื่อไปดูความก้าวหน้าของโครงการองุ่นแปลงใหญ่ในพื้นที่ อ.ดำเนินสะดวก  หลังกรมส่งเสริมสหกรณ์สั่งการให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดเร่งขยายพื้นที่แปลงใหญ่ในสหกรณ์ต่างๆ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” โดยเชิญชวนสหกรณ์การเกษตรที่มีความพร้อมและสนใจจะเข้าร่วมโครงการเพื่อสนับสนุนให้สมาชิกสหกรณ์ได้รวมกลุ่มกันผลิตสินค้าการเกษตรตามระบบการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยจะครอบคลุมสินค้าทั้งหมด 9 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วยข้าว พืชไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น ผัก สมุนไพร ประมง ปศุสัตว์ ไม้ดอกไม้ประดับและหม่อนไหม โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันทางการตลาดของสินค้า   

     สำหรับโครงการเกษตรแปลงใหญ่ใน จ.ราชบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ยังยึดอาชีพปลูกองุ่น ซึ่งเป็นผลไม้ที่อยู่คู่กับ อ.ดำเนินสะดวก มายาวนานนับร้อยปี จนถือได้ว่าเป็นผลไม้ประจำพื้นที่และมีความเอกลักษณ์ของ อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่มีการสืบทอดการปลูกแบบภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงเทคนิคการเพาะปลูกที่สืบทอดมาอย่างต่อเนื่องรุ่นต่อรุ่น โดยส่วนใหญ่จะปลูกพันธุ์ไวท์มะละกา มีผลยาว ลักษณะช่อใหญ่ยาว การติดผลดีผลมีสีเหลืองอมเขียว รสหวานแหลม เปลือกหนาและเหนียว ในผลหนึ่งๆ มี 1-2 เมล็ด ส่วนการเก็บผลได้อยู่ที่ประมาณ 4 เดือนครึ่ง ปีหนึ่งให้ผลผลิต 2 ครั้ง ผลผลิตประมาณ 10-15 กิโลกรัมต่อต้นต่อครั้ง

     ที่ผ่านมาสามารถให้ผลผลิตได้ดี แต่เกษตรกรมักจะขายด้วยระบบการเหมาไร่จากพ่อค้าคนกลาง ทำให้ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรบางรายหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตองุ่นใน อ.ดำเนินสะดวก ลดลงจนอาจจะสูญหายไปในอนาคต เพื่อให้องุ่นดำเนินสะดวกยังคงมีอยู่คู่กับอำเภอและให้เกษตรกรผู้ปลูกได้รับราคาที่เป็นธรรมในการจำหน่ายต่อไป 

       สุรินทร์ วทัญญู สหกรณ์จังหวัดราชบุรี เผยระหว่างนำเยี่ยมชมแปลงองุ่นโดยระบุว่าที่ผ่านมาสำนักงานสหกรณ์จังหวัดราชบุรี เข้าไปทำความเข้าใจแก่สมาชิกสหกรณ์ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกันเป็นแปลงใหญ่ ตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และสหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกองุ่นราชบุรี จำกัด ก็เป็นอีกสหกรณ์หนึ่งที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเข้าไปสนับสนุนและพัฒนาให้เกษตรกรผู้ปลูกองุ่นดำเนินสะดวกรวมกลุ่มกันและทำการเกษตรเป็นแปลงใหญ่ ซึ่งในเบื้องต้นคณะกรรมการสหกรณ์ได้ให้ความสนใจและลงมติเห็นชอบที่จะเข้าร่วมโครงการแล้ว เนื่องจากการรวมกันเป็นแปลงใหญ่จะทำให้เกษตรกรสามารถที่จะบริหาร การจัดการในภาพรวมของตัวผลผลิต ได้ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง 

      “ต้นทางก็คือในเรื่องของตัวปัจจัยการผลิตต่างๆ นับตั้งแต่ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช สหกรณ์ก็สามารถที่จะอำนวยความสะดวกให้สมาชิกได้ ในด้านการบริหารการจัดการก็มีทีมนักวิชาการจากกรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้ามาช่วยเหลือให้คำแนะนำเกษตรกรในการวางแผนการผลิต ตั้งแต่การตรวจสอบคุณภาพดินและการดูแลรักษาเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพภายใต้แนวทางการบูรณาการในภาพรวมทั้งหมดของแปลงใหญ่”

       ด้าน ยุทธพงค์ โล่เกียรติคุณ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกองุ่นราชบุรี จำกัด อธิบบายให้ฟังว่าเกษตรกรที่ปลูกองุ่นได้มีการรวมกลุ่มกันแล้วจัดตั้งเป็นสหกรณ์ขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการองุ่นเป็นไปตามขบวนการสหกรณ์ คือ มีการร่วมกันคิดเพื่อปรับปรุงพัฒนาขบวนการผลิต ตลอดถึงการจำหน่าย โดยมีสหกรณ์จังหวัดราชบุรีให้การสนับสนุน ยังผลให้การผลิตองุ่นของ จ.ราชบุรี ในปัจจุบันสามารถ เพาะปลูกองุ่นที่มีผลิตผลดีเยี่ยม หวานกรอบอร่อย และสามารถสร้างชื่อเสียงในจังหวัดมากยิ่งขึ้นด้วย  

      “สหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกองุ่นราชบุรี จำกัด อยากจะอนุรักษ์พื้นที่การปลูกองุ่นใน อ.ดำเนินสะดวก ให้คงอยู่คู่กับ จ.ราชบุรี จึงมีความสนใจที่จะนำระบบการผลิตแปลงใหญ่เข้ามาจัดการผลผลิตและพื้นที่ปลูกองุ่นของสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้ได้เชิญชวนสมาชิกสหกรณ์ที่ปลูกองุ่นทั้งหมดมาเข้าร่วมโครงการจัดทำแปลงใหญ่ผู้ปลูกองุ่นราชบุรีแล้ว โดยคาดหวังว่าจะช่วยให้เกษตรกรมีความมั่นคงและยังคงยึดอาชีพทำสวนองุ่นดำเนินสะดวกไว้ได้จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน และคิดว่าโครงการแปลงใหญ่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรชาวสวนองุ่นได้" ประธานสหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกองุ่นราชบุรี กล่าวทิ้งท้ายก่อนอำลา         

      องุ่นแปลงใหญ่ จ.ราชบุรี ไม่ใช่เพียงแค่ไม้ผลทำเงินให้เกษตรกรในพื้นที่เท่านั้น ยังเป็นการอนุรักษ์ไม้ผลประจำถิ่นที่อยู่คู่กับ อ.ดำเนินสะดวก มายาวนานนับร้อยปีอีกด้วย