โดย - โต๊ะข่าวเกษตร
เตือนชาวนาระวังการระบาดของแมลงบั่ว!
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้ข้าวในหลายพื้นที่อยู่ในระยะกล้าถึงแตกกอ ซึ่งเป็นระยะที่แมลงบัวเข้าทำลายมาก จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเขตภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกเฝ้าระวังการระบาดของแมลงบั่ว และหมั่นสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ
ตัวเต็มวัยของแมลงบั่ว มีลักษณะคล้ายยุงหรือริ้นลำตัวยาวประมาณ 3-8 มิลลิเมตร หนวดและขามีสีดำเวลากลางวันตัวเต็มวัยจะเกาะซ่อนตัวอยู่ใต้ใบข้าวบริเวณกอข้าว และเวลากลางคืนจะบินไปหาที่มีแสงไฟเพื่อผสมพันธุ์ เพศผู้ลำตัวมีสีน้ำตาลปนเหลืองขนาดเล็กกว่าเพศเมีย เพศเมียส่วนท้องมีสีแดงส้มวางไข่ใต้ใบข้าว ในเวลากลางคืน เมื่อตัวหนอนฟักออกจากไข่จะคลานลงสู่ซอกของใบ ยอด และกาบใบเพื่อเข้าทำลายยอดที่กำลังเจริญเติบโต
โดยหนอนจะอาศัยกัดกินอยู่ภายในตาของต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโต ต้นข้าวจะสร้างหลอดหุ้มตัวหนอนไว้ทำให้เกิดเป็นช่องกลวงที่เรียกว่า“หลอดบั่วหรือหลอดหอม” หลอดจะยิ่งขยายใหญ่ขึ้นตรงส่วนที่ถูกหนอนบั่วทำลาย มีลักษณะเป็นหลอดยาว มีสีเขียวอ่อนแตกต่างจากหน่อข้าวปกติ ต้นข้าวและกอข้าวที่ถูกทำลายมีอาการแคระแกร็น ต้นเตี้ย ลำต้นกลม สีเขียวเข้ม ไม่ออกรวง ยอดที่ถูกทำลายไม่สามารถออกรวงได้ ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงมาก
กรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำวิธีการป้องกันกำจัด ดังนี้ 1.กำจัดวัชพืชรอบแปลงนา เช่น ข้าวป่า หญ้าข้าวนก หญ้าไซ หญ้าแดง หญ้าชันอากาศเพื่อทำลายพืชอาศัยของแมลงบั่ว 2.ไม่ควรหว่านข้าวหรือปักดำข้าวถี่เกินไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของแมลงบั่วเป็นประจำ 3.หมั่นสำรวจแปลงนา หากพบจำนวนไม่มากให้ถอนต้นเป็นหลอดออกนำไปเผาทำลาย
4.ใช้กับดักแสงไฟล่อตัวเต็มวัยเพื่อจับมาทำลาย ในช่วงเวลา 19.00-21.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม 5. สุ่มสำรวจแปลงนาเมื่อพบต้นข้าวแสดงอาการใบไม่คลี่ แต่เป็นหลอดคล้ายหลอดหอม 3-5 เปอร์เซ็นต์ (ต้นข้าว 100 ต้น พบต้นที่เป็นหลอด 3-5 หลอด) ในช่วงข้าวระยะกล้าถึงแตกกอใช้สารกำจัดแมลง คลอไทอะนิดิน 16% เอสจีหรือคลอร์ไพรีฟอส 40% อีซีหรืออิทิโพรล 10% เอสจี 6.อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติเช่น แมงมุม และแตนเบียนของแมลงบั่ว
ทั้งนี้ หากพบการระบาด ให้รีบแจ้งการระบาดและขอคำปรึกษาในการป้องกันกำจัดได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อหาแนวทางป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง