บริษัท "มังกรฟ้า" ไม่กังวลถูกปิดแพลตฟอร์มออนไลน์

นายพชรล์ เมสสิยาห์พร กรรมการผู้จัดการ บริษัทมังกรฟ้า ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องขายสลากเกินราคา หลังแรมโบ้-บิ๊กโจ๊ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าขอตรวจค้นเมื่อวานนี้ ว่า บริษัทของตนปัจจุบันมีลอตเตอรี่ทั้งหมด 100 ล้านฉบับ แต่มีลอตเตอรี่อยู่กับมังกรฟ้างวดละประมาณ 2 ล้านใบ คิดเป็นร้อยละ 2 ของทั้งหมดเท่านั้น พร้อมย้ำว่า มังกรฟ้าเป็นเพียงตัวกลางที่ให้ผู้มีโควต้ามาฝากขายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ชองตย จึงอยากถามกลับว่า มังกรฟ้าเป็นต้นเหตุให้ลอตเตอรี่ราคาแพงจริงหรือไม่ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับบริษัทด้วย

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในสำนักงานเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.65) รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือ เบื้องต้นยังไม่ได้รับการแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดใด และลอตเตอรี่ทั้งหมดยังไม่ถูกอายัด โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบว่ามีลอตเตอรี่อยู่จริง และเมื่อทำการซื้อขายไปแล้วไม่มีเลขเดิมเพื่อนำไปขายซ้ำอีก    

ทั้งนี้การเข้าตรวจค้นจะเกี่ยวกับการที่กองสลากจะเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งถือเป็นคู่แข่งหรือไม่นั้น ซึ่งทางบริษัทมองว่า ในส่วนของความตั้งใจของมังกรฟ้า คือต้องการช่วยสร้างรายได้ ถึงแม้ทางหน่วยงานจะสั่งปิดห้ามไม่ได้เปิดช่องทางแพลตฟอร์ม ก็มีอย่างอื่นที่อยู่ในแพตฟอร์มสร้างรายได้ให้กับบริษัท อย่างเช่น การดูดวง, เสริมดวง, คำทำนาย, ดวงหวย เป็นต้น

นายพชรล์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทมังกรฟ้า เผยถึงที่มาของรายได้บริษัทด้วยว่า มีรายได้จากค่าสแกนลอตเตอรี่ช่องทางเดียว ใบละ 3-5 บาท และที่ราคาแตกต่างกันเพราะต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่เท่ากันในจำนวนของผู้ค้าที่เข้ามาสแกน และบริษัทไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการขายล็อตเตอรี่มากกว่านี้ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการตัดสิทธิโควตาสลากกับผู้ค้า เพราะประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง และหากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะทำระบบออนไลน์แบบจริงจัง อยากให้มาร่วมกันพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เชื่อการจำหน่ายลอตเตอรี่จะเป็นระบบมากกว่านี้ และจะทำรายได้ให้กับประเทศ 

   ส่วนตัวนั้นไม่กล้าที่จะบังคับว่า จะให้ขายราคาลอตเตอรี่ อยู่ที่เท่าไหร่ เพราะลอตเตอรี่ ไม่ใช่ของตน ถึงแม้จะเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม ก็ตาม และขอให้เป็นไปตามกลไก ราคาตลาดและให้ลูกค้าตัดสินใจเอาเองว่า จะซื้อผ่านมังกรฟ้า หรือ ไม่ เพราะถ้าไม่มีมังกรฟ้า ราคาในตลาดก็สูงอยู่ดี 

พร้อมฝากบอกไปยังรัฐบาลว่า อยากให้เข้ามาคุยกันถึงไอเดียที่จะสามารถมาทำร่วมกันได้ ก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งยินดีที่จะพัฒนาระบบร่วมกัน เพื่อให้ช่องว่างการขายแบบออนไลน์และออฟไลน์ลดลง ทำให้ประชาชนทุกคนมีรายได้ 

ส่วนกรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะสั่งปิดมังกรฟ้า ส่วนตัวยังไม่ได้รับเอกสาร และไม่กังวลใจ ยังขอยืนยันว่า จะไม่มีการแจ้งความกลับหากผลการตรวจสอบพบว่ามังกรฟ้าไม่มีความผิด เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำให้ตนเสื่อมเสีย แค่มีความสงสัยและเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งยินดีให้ตรวจสอบอยู่แล้ว