ข่าว

จับ "สาวแสบ" เปิดFB "หลอกรับหิ้วสินค้า" แบรนด์เนม เคยโดนจับหลายครั้งไม่เข็ด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจกองปราบฯ รวบ "สาวแสบ" เปิดเฟซบุ๊ก "หลอกรับหิ้วสินค้า" แบรนด์เนมพบประวัติมีคดีติดตัว เคยโดนจับหลายครั้งแต่ไม่เข็ดหลาบ กลับมาทำเหมือนเดิม เหยื่อหลงเชื่อนับ 100 ราย

29 พ.ย.2564  ตำรวจกองปราบปราบ คุมตัว น.ส.ขวัญรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี  ในความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดย ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและตัวการในข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ” 
 

ย้อนไปตั้งแต่ ปี 2560 น.ส.ขวัญรัตน์ ผู้ต้องหา  เปิดเฟซบุ๊กรับหิ้วของแบรนด์เนม ที่ลดราคาตามห้างสรรพสินค้า มีการสร้างร้านค้าออนไลน์ในเฟซบุ๊ก เพื่อจะหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย ที่สนใจในสินค้าแบรนด์เนมคุณภาพดี แต่ราคาถูกกว่าราคาตลาด ฟรีค่าจัดส่ง โดยจะมีการนำภาพผู้หญิง มาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ จากนั้นก็จะนำรีวิวจากที่อื่นมาลงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าสินค้าให้แล้ว ก็จะปิดเฟซบุ๊กแล้วไปเปิดเฟซบุ๊กใหม่ เมื่อโดนตาม จนไม่สามารถใช้บัญชีตนเองได้ก็จะหันไปใช้บัญชีแฟนหนุ่มแทน 

 

ต่อมา ประมาณเดือน มิ.ย. 2562  น.ส.ขวัญรัตน์  ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในข้อหา ฉ้อโกง ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และพ้นโทษออกมาเมื่อปลายปี 2562 ประกอบกับยังไม่มีงานทำ จึงกลับมาเปิดเฟซบุ๊กเพื่อหลอกลวงผู้เสียหายอีกในลักษณะเดิม และล่าสุด เมื่อปี 2563 ผู้ต้องหาถูกตำรวจ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ดำเนินคดีในข้อหา นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ต่อมาผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล และศาลจังหวัดนนทบุรี นัดผู้ต้องหามาฟังคำพิพากษา แต่ผู้ต้องหาไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงออกหมายจับ และก่อนถูกจับกุมในครั้งนี้ ผู้ต้องหายังคงหลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะเดิมอีก
 

ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นการกระทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เกิดความเสียหายในภาคธุรกิจการขายสินค้าออนไลน์ มีพฤติกรรมไม่เข็ดหลาบ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อีกทั้งยังคงหลบหนีคดีอยู่ โดยก่อนจับตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหา หลบพักอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ห้องเช่า ย่านพหลโยธิน 50 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบจับนำตัวส่งศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย 

 

จากการ สอบถามคำให้การเบื้องต้น น.ส.ขวัญรัตน์ รับว่า ปลอมเฟซบุ๊กหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินมาจริง ตั้งแต่ปี 2560 ถูกจับดำเนินคดีหลายครั้ง แต่ไม่มีงานทำ จึงกลับมาเปิดเฟซบุ๊กหลอกผู้เสียหายอีก โดยมีผู้หลงเชื่อโอนเงินกว่า 100 ราย มีรายได้เดือนละ 4-5 หมื่นบาท จนถึงปัจจุบัน เมื่อได้เงินมามักจะนำไปใช้จ่ายส่วนตัวและซื้อของเเบรนด์เนม 

logoline