ข่าว

"บิ๊กป้อม"ลง ปากน้ำโพ สั่งเร่งพัฒนา บึงบอระเพ็ด ช่วยลดน้ำท่วม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กป้อม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกฯ ลงพื้นที่เมืองปากน้ำโพสั่งเร่งพัฒนาบึงบอระเพ็ดช่วยลดน้ำท่วม ประชาชนมีน้ำใช้ช่วงแล้ง

วันนี้ (12 พ.ย. 64) "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เดินทางมาที่จังหวัดนครสวรรค์  โดยมี นาชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวต้อนรับ

 

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช) นำเสนอสถานการณ์น้ำในปัจจุบันและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานนำเสนอการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดนครสรรค์ และนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นำเสนอระบบการป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมืองนครสวรรค์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ ณ ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ ก่อนเดินทางลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำโดยนำน้ำเข้า-ออกบึงบอระเพ็ด บริเวณประตูปากคลองบึงบอระเพ็ด

 

"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนซ. เปิดเผยว่า จังหวัดนครสวรรค์เป็นพื้นที่สำคัญกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่ผ่านมารัฐบาลเร่งขับเคลื่อนแผนแก้ไขปัญหาด้านน้ำเชิงพื้นที่แบบบูรณาการให้เกิดความยั่งยืนโดยเฉพาะการแก้ไขและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ และปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคในช่วงฝนทิ้งช่วง

 

ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้เน้นย้ำและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงแผนงานโครงการในพื้นที่ให้เกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาด้านน้ำให้กับประชาชน โดยมอบหมายให้ สทนช. เร่งชี้แจงร่างแผนหลักการพัฒนาทรัพยากรน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้ประชาชนทราบ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และบรรจุในแผนแม่บทฯ น้ำ 20 ปี เพื่อเป็นกรอบให้ทุกปฏิบัติ โดยเฉพาะ จ.นครสวรรค์ ที่ต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการเร่งด่วน

 รวมถึงให้ สทนช. และหน่วยงานสนับสนุนการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนหลักการพัฒนาและฟื้นฟู บึงบอระเพ็ด ให้สัมฤทธิ์ผลและเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ซึ่งเห็นผลได้ชัดเจนว่าฤดูฝนปีนี้ บึงบอระเพ็ด ทำหน้าที่ชะลอน้ำหลากจากอิทธิพลพายุ "เตี้ยนหมู่" สามารถกักเก็บได้กว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม) ทำให้ ชาวนครสวรรค์ มีแก้มสิงขนาดใหญ่ รอดพ้นจนภาวะน้ำท่วม และมีน้ำใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมซาติ หนอง บึงขนาดใหญ่ ที่จะสามารถนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นตามหลักการใช้ประโยชน์ที่ดิน "ให้ หวง ห้าม" ที่มีแนวทางปฏิบัติชัดเจนทั้งในเรื่องเป้าหมาย เจ้าภาพหลัก และวงเงินตามกรอบเวลาชัดเจน

 

ดังนั้นจึงได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเฉพาะแผนงานโครงการที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2566 เพื่อให้การพัฒนาและฟื้นฟูบึงบอระเพ็ดใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ

 

ขณะเดียวกัน ยังมอบหมายกรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งรัดดำเนินการโครงการระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนวัดไทรย์ให้แล้วเสร็จพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำหลากในปีถัดไป และให้กรมชลประทานเร่งสำรวจออกแบบโครงการที่ช่วยแก้ไขและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมให้กับประชาชน และเร่งพัฒนาพื้นที่ที่เป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งต่อไป

 

รณกฤต วรณันวรกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครสวรรค์

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปี 61-64) สทนซ. ได้ผลักดันแผนงานโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำโดยมีความเชื่อมโยงในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ และพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง รวม 1,750 แห่ง เพิ่มปริมาณน้ำได้ 60 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 70,457 ไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกัน290,068 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 662,013 ครัวเรือน

 

เช่น วางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำบ้านหนองแก่ง จ.นครสวรรค์ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น และในปี 65 มีแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำตามแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอีก 96 แห่ง เพิ่มปริมาณน้ำได้ 7 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 66.065 ไร่ 11,832 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 52,644 ไร่ เช่น แก้มลิงบึงบอระเพ็ด อ.เมืองนครสวรรค์ ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสิงห์บุรี โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ริมแม่น้ำ อ.เมืองชัยนาท เป็นต้น

 

ขณะเดียวกันยังได้เร่งขับเคลื่อนแผนโครงการที่สำคัญ อีก 63 โครงการที่จะช่วยกักเก็บน้ำและบรรเทาอุทกภัยในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปี 66-67 เช่น คลองระบายน้ำหลาก ชัยนาท-ป่าสัก ขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา จ.อุทัยธานี ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นต้น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ