จบสวย ศึกแม่ค้าสาดน้ำร้อน หนุ่มเร่ร่อน สุดท้ายทุกฝ่าย ต่างเอ่ยปากขอโทษ

(26ต.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้นำตัว นายไชยา หรือ ต้อมแสงสง่า อายุ 45 ปี ผู้เสียหาย และผู้บาดเจ็บจากการถูกน้ำร้อนลวก เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อแจ้งความดำเนินคดี หลังจากถูกแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว "สาดน้ำร้อน" เหตุเกิดเหตุเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 24 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายไชยา ผู้เสียหาย เล่าถึงให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเย็นของ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา  ขณะนั้น ตนหิวข้าว และไม่มีเงินซื้อข้าวกิน จึงได้เดินไปขอก๋วยเตี๋ยวกินที่ร้านดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่า พูดจาไม่ดี  ทางร้านได้ถามว่า “เอาเลือดไหม” ตนก็ได้บอกไปว่า “อยากจะเอาเลือดสาว” ซึ่งที่ผ่านมาร้านนี้เคยไปขอก๋วยเตี๋ยวกินอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งที่ผ่านมา เจ้าของร้านก็ให้กินตลอด เจ้าของร้านเคยบอกว่า ถ้าไม่มีเงินกินข้าว ก็ให้มาขอได้ "สาดน้ำร้อน"

"ที่พูด แค่ตั้งใจจะแค่แหย่เล่น แต่ยอมรับว่า วันเกิดเหตุมีอาการมึนเมาสุรา แต่ไม่ได้มีการโวยวาย เพียงแต่คุยเล่นกับคนงาน ส่วนคน "สาดน้ำร้อน" เป็นเจ้าของร้าน ก่อนสาดน้ำ เขาถามเราว่า จะเดินออกไปหรือไม่ ถ้าไม่ออก จะเอาน้ำสาด "สาดน้ำร้อน" ซึ่งตอนนั้นคิดว่าเป็นน้ำเย็น แต่พอสาดมาเป็นน้ำร้อน  เพราะมาจากกระบวยลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว และการมาที่โรงพักในครั้งนี้ ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาผิด หรือเรียกร้องอะไรกับเจ้าของร้าน เพราะที่ผ่านมา ทางร้านก็เคยให้อาหารกินอยู่เป็นประจำ แต่ด้วยความสนิทสนม เลยไม่คิดว่าการพูดจาไม่ดี จะทำให้ทางเจ้าของร้านไม่พอใจ" "สาดน้ำร้อน" 

ขณะที่ น.ส.น้ำทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ เล่าว่า ที่ผ่านมา รู้จักนายไชยา มานานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมรุนแรง หรือเป็นอันตรายกับคนในชุมชน จึงไม่เห็นด้วยที่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ทำร้ายร่างกายนายไชยา จนได้รับบาดเจ็บ "สาดน้ำร้อน"

ส่วนทางด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า  ได้พานายไชยา มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ว่าใครก็สามารถทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ตามอำเภอใจ โดยยอมรับว่านายไชยา ก็มีส่วนผิด แต่ก็ไม่ควรทำร้ายผู้อื่นขนาดนี้ "สาดน้ำร้อน" บ้านเมืองมีกฎหมาย ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องทางเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ก็ไม่คิดว่าจะได้รับบาดเจ็บมากขนาดนี้ และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปเช่นกัน

สำหรับ นางสาวอรอุมา (สงวนนามสกุล) แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม  พร้อมกับแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุขายของอยู่มีลูกค้าเยอะมาก และลูกค้าส่วนมากก็เป็นผู้หญิง

โดยในวันเกิดเหตุเขามีท่าทีมองแบบคุกคามลูกค้า จึงได้ออกปากไล่ ให้ไปนั่งที่อื่น แต่นายไชยา ไม่ยอมไป ด้วยความกลัวว่าลูกค้า จะถูกคุกคาม จึงขู่ไปว่า จะเอาน้ำร้อนสาดนะ "สาดน้ำร้อน" ทำให้นายไชยา ยอมลุกออกไป แต่ก็วนกลับมาอีก และเกือบมีปัญหากับลูกน้องในร้าน

จนตัวเองต้องเข้าไปพูดจาให้สงบสติอารมณ์ แต่นายไชยา กลับแสดงอาการ เต้นยั่วยุ และเหมือนจะเดินตรงเข้ามาหา ขณะนั้นกำลังในมือกำลังถือกระบวยลวกก๋วยเตี๋ยวอยู่ด้วย จึงได้ "สาดน้ำร้อน" ออกไป แต่ไม่คิดว่าจะโดนเยอะขนาดนี้

"ตลอด 7 ปี ให้เขามากินอาหารตลอด ครั้งนี้ รู้สึกเสียใจ เพราะทุกครั้งก็พูดจารู้เรื่อง ห้ามก็ฟัง ไล่ก็ไป แต่ครั้งนี้พูดจาไม่รู้เรื่องจึงเกิดเรื่องดังกล่าวไป ซึ่งเมื่อสักครู่ได้เข้าไปพูดคุยกับนายไชยาแล้ว และได้เห็นบาดแผล ก็รู้สึกตกใจ เพราะวันเกิดเหตุหลังสาดก็ไม่ได้เดินไปหาเพราะคิดว่าเล็กน้อย  ซึ่งจากการพูดคุยเข้าใจกันดี ซึ่งต่อจากนี้ก็ยังยินดีที่จะให้กินต่อไป แต่ขอให้มาในสภาพปกติ พูดจารู้เรื่อง และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมจะดูแลหากต้องการให้ความช่วยเหลือ" 

ขณะที่ พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง  ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยว่า ต้องดำเนินคดีกับ นางสาวอรอุมา ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งผลการตรวจร่างกายของนายไชยา จากแพทย์ คดีนี้จะดูเจตนาการก่อเหตุเป็นหลัก และสามารถปรับผู้ก่อเหตุในชั้นพนักงานสอบสวนได้ ส่วนการดูแลรักษาพยาบาล ขึ้นอยู่กับทางคู่กรณีตกลงกัน