ย้อน 'ไทม์ไลน์' คดี 'อดีตผู้บริหารหญิง' เมาแล้วขับ ปี 2565

กรณี อดีตผู้บริหารหญิง ดีกรีระดับ ดอกเตอร์ (ดร.) โปรไฟล์การทำงานไม่ธรรมดา เคยเป็นผู้บริหาร บริษัทชั้นนำ แห่งหนึ่ง เมาแล้วขับ กรณีขับรถเบนซ์หรู ถูก ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ เรียกตรวจ ปรากฏว่าตัวเลขปริมาณแอลกอฮอล์ 104 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่ากฎหมายกำหนด 

 

และระหว่างถูกคุมตัวไป สน.ประเวศ เธอได้ก่อเหตุ ถีบหน้า พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 บก.จร. และใช้ถ้อยทำรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ อาทิ ชั้นต่ำ

 

เหตุเกิด เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 23เม.ย.2567 ต่อเนื่อง วันที่ 24 เม.ย.2567 ที่ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ และกวดขันวินัยจราจร บริเวณฝั่งตรงข้ามมัสยิด ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม.

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติพบว่า เธอเคยถูกตรวจวัดแอลกอฮอล์ และพบว่า มีคดี เมาแล้วขับ เมื่อ วันที่17ส.ค.2565 ครั้งนั้นวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 69 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

 

แต่เธอให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้ เมาแล้วขับ และอ้างว่าแอลกอฮอล์ที่เป่าพบ เป็นแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดจานที่ใช้ฉีดใส่ที่เป่าวัดแอลกอฮอล์ ในช่วงโควิดแพร่ระบาด นั้น

 

อย่างไรก็ดี พบว่า คดี เมาแล้วขับ เมื่อ ปี 2565 ผ่านมา 2 ปี ยังไม่ได้ส่งฟ้องศาล จนกลายเป็นประเด็น ดองสำนวน เกิดขึ้น

ล่าสุด วันที่ 2 พ.ค.2567 พ.ต.ต.ศิวนนท์ สงนุ้ย พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ในฐานะ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เมื่อ ปี 2565 เปิดเผยรายละเอียด ดังนี้

 

-วันที่ 17 เม.ย.2565ตำรวจจรจราจรกลาง นำตัว อดีตผู้บริหารหญิง มาให้ทำบันทึกจับกุม คือ วันที่ 17 ส.ค.2565 ได้อธิบายถึงขั้นตอนและข้อหาที่จะดำเนินคดี แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้ เมาแล้วขับ โดยบอกว่าปริมาณแอลกอฮอล์ขึ้นสูง เพราะเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ปนเปื้อนกับแอลกอฮอล์ที่ฉีดเพื่อฆ่าเชื้อ

 

-จากนั้นจึง นำเอาแอลกอฮอล์ของ อดีตผู้บริหารหญิง ที่บอกว่าใช้ฉีดใส่เครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ส่งไปตรวจที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อความเป็นธรรม และคืนนั้นก็อนุญาตให้ประกันตัวไป เพราะผู้ต้องหาต่อสู้คดี

 

-ในใบสัญญาประกันระบุไว้แนบท้าย ว่า ผู้ต้องหาจะต้องมาพบกับ พนักงานสอบสวน ก็คือตนที่ สน.ประเวศ ในวันที่ 19 ส.ค.2565 เวลา 08.30 น. เพื่อนำตัวไปผัดฟ้องฝากขังตามขั้นตอนของกฎหมาย ในกรณีที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ทั้งนี้  จากการสังเกต โดยส่วนตัว เห็นว่า วันนั้นผู้ต้องหามีอาการเหมือนกับคนเมาสุรา

 

-จากนั้น วันที่ 19 ส.ค.2565 เป็นวันนัด ผู้ต้องหาไม่มาพบตามนัด ทำให้ไม่สามารถนำตัวไปผัดฟ้องที่ ศาลจังหวัดพระโขนงได้ และตนก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้ต้องหาอีก เนื่องจากต้องรวบรวมหลักฐานทางคดี และ รอผลการตรวจแอลกอฮอล์ที่ผู้ต้องหาบอกว่า ใช้ฉีดใส่เครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ จนทำให้ค่าแอลกอฮอล์ขึ้นสูง จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

 

-วันที่ 14 พ.ย.2565 ได้ทำหนังสือไปที่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อทวงถามถึงผลการตรวจแอลกอฮอล์ของกลาง ที่ส่งไป และหลังจากนั้นประมาณ 3 สัปดาห์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงส่งผลการตรวจกลับมาให้ตน

 

-ต่อมา ต้นเดือน ม.ค.2566 สรุปสำนวนเรียบร้อย แต่ช่วงกลางเดือน ม.ค.2566 ติดภารกิจอบรม จึงยังไม่ได้ส่งฟ้อง ผู้ต้องหา

 

-จนกระทั่ง เดือน ก.พ.2566 มีคำสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติราชการที่อื่น ทำให้สำนวนจึงยังคงอยู่ที่ สน.ประเวศ แต่ได้มอบสำนวนให้กับทางโรงพัก เพื่อให้ผู้บังคับบัญชา มอบหมายให้พนักงานสอบสวนรายอื่น รับช่วงต่อตามขั้นตอน

 

-จนกระทั่งมาทราบข่าวว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีส่งฟ้อง อดีตผู้บริหารหญิง รายนี้ ทั้งที่ทำสำนวนเสร็จแล้ว ยอมรับว่าตกใจ หลังจากนี้จะต้องไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีนี้เช่นกัน

 

ขอชี้แจงประเด็น หลังจาก ผู้ต้องหามาออกรายการโหนกระแส และบอกว่า ตนได้โทรศัพท์ไปหาหลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับผ่านไป 3 สัปดาห์ และบอกว่าไม่ต้องมาพบตำรวจแล้ว เรื่องมันจบแล้ว ขอยืนยันว่า ไม่เคยโทรศัพท์ไปบอกผู้ต้องหา อย่างที่ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด