ชาวเน็ตรุมต่อว่ายูทูบเบอร์ดัง การุณยฆาตน้องหมาที่เลี้ยงมา หลังกัดลูก

นิกกิ และแดน ฟิลิปปี ( Nikki and Dan Phillippi ) สามีภรรยายูทูบเบอร์แนวไลฟ์สไตล์ ประกาศผ่านอินสตาแกรมและช่องยูทูบ ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.3 ล้าน  เรื่องการตัดสินใจการุณยฆาต “บาวเซอร์” สุนัขบุลเทอร์เรียร์  เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่มันไม่ได้ป่วยหรือเป็นโรคหมดทางรักษา แต่เพราะไปกัด โลแกน ลูกชายวัย 1 ขวบ หลังจากเด็กชายพยายามไปหยิบอาหารของมัน  แม้ว่าเหตุการณ์ล่าสุดไม่ได้ร้ายแรงมาก แต่ก็ทำให้เธอจำต้องตัดสินใจทำให้มันจากไปอย่างสงบ นิกกิ กล่าวว่านี่เป็นวันที่เศร้าที่สุดในชีวิตของเธอ 

สามีภรรยาฟิลิปปี อธิบายการตัดสินใจผ่านคลิปว่า บาวเซอร์อายุเกือบ 10 ปีแล้ว มันเป็นสุนัขน่ารักแต่ก็มีมุมดุร้าย  เคยกัดสุนัขตัวอื่นบาดเจ็บรุนแรงมาก่อน และเมื่อ 5 ปีที่แล้ว  ความดุร้ายของบาวเซอร์เคยทำให้ทั้งสองเคยคิดที่จะการุณยฆาตมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ทั้งสองพยายามหาบ้านใหม่ให้กับมัน แต่เมื่อสอบถามองค์กรสงเคราะห์สัตว์ ได้รับแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ ด้วยอายุมากแล้ว และหลังจากพูดคุยหารือกับผู้เชี่ยวชาญสุนัขหลายคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีทางเลือกเดียว 

แดน เสริมว่า บาวเซอร์เป็นสัตว์เลี้ยงอันตรายที่ควรอยู่นอกรั้วแต่เขาเก็บมันไว้ในบ้าน มันเคยถูกทำร้ายตอนยังเล็กเลยทำให้มันดุร้าย  แต่จุดที่ทำให้ต้องคิดเรื่องนี้อีกครั้ง เมื่อบาวเซอร์กัดหน้าของโลแกน แม้เป็นแค่รอยเล็กๆบนใบหน้า หลังจากเด็กชายหยิบอาหารของมัน และปฏิกริยาของมันคือป้องกันตัว กระนั้น ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว 

“ฉันรู้ว่าหลายคนจะต้องช็อกเมื่อรู้เรื่องนี้ สมองฉันก็ยังช็อกอยู่” ทั้งสองกอดบาวเซอร์และจูบมันในบ้านขณะที่มันกำลังสิ้นลม  แต่ก่อนจบชีวิตบาวเซอร์  นิกกิได้ถ่ายรูปสุดท้ายกับมันพร้อมหน้าพร้อมตา รวมถึงลูกชายวัย 1 ขวบ และนำไปโพสต์อินสตาแกรม ปรากฎว่า ชาวเน็ตแห่แหนแสดงความเห็นเชิงตำหนิ เช่น  “น่าไม่อาย” “สุนัขบางตัวอยู่กับเด็กไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าควรปล่อยให้มันตาย”  “หวังว่าจะทำเงินได้มหาศาล(จากยอดวิว)!! ภาวนาเลย อย่าหวังจะได้สัตว์เลี้ยงใหม่”  “ส่วนที่น่าสะอิดสะเอียดสำหรับฉันก็คือภาพถ่ายก่อนจบชีวิตสุนัข ดีใจด้วยนะที่พวกคุณไม่ได้โศกเศร้าจนทำคอนเทนต์ออกมาไม่ไหว”  

หลังถูกรุมวิจารณ์กระหน่ำ โพสต์ไอจีถูกตั้งค่าเป็นส่วนตัว ส่วนคลิปที่โพสต์บนช่องยูทูบ ปิดไม่ให้แสดงความเห็น  อย่างไรก็ดี ขณะที่ชาวเน็ตส่วนใหญ่รับไม่ได้และคิดว่าไม่ใช่ทางออกทางเดียว แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการจัดการกับพฤติกรรมก้าวร้าวของสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องซับซ้อน และทางออกแต่ละกรณีไม่เหมือนกัน  

ดิ อินไซเดอร์ อ้างความเห็น Liv Hagen ผู้จัดการฝ่ายบริการด้านพฤติกรรม สถานสงคราะห์สัตว์ Animal Humane Society ในมินนิโซตา ว่าการรับมือกับสุนัขก้าวร้าวนั้น ต้องประเมินว่าอะไรเป็นสิ่งเร้า ก่อนตัดสินใจว่า สามารถจัดการกับสิ่งเร้าเหล่านั้นกับการสนองตอบได้หรือไม่ พฤติกรรมก้าวร้าวบางระดับ อาจมีมืออาชีพช่วยได้ กรณีสุนัขของนิกกิ เธอไม่สามารถให้ความเห็น แต่แนะนำให้เจ้าของที่มีปัญหาแบบเดียวกันหารือกับสัตวแพทย์ หรือนักพฤติกรรมสัตว์ก่อนตัดสินใจ  ซึ่งบางครั้ง ผลการหารืออาจลงเอยที่การตัดสินใจยากลำบากและใจสลาย เช่น หาบ้านใหม่ หรือทำให้มันตายอย่างไม่ทรมาน