ข่าว

ผบช.น.แจงเหตุจำเป็นต้องปะทะหน้าสถานทูตเมียนมา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบช.น.แจงตำรวจบาดเจ็บ 15 นายเหตุปะทะหน้าสถานทูตเมียนมา เผยทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และจำเป็นต้องผลักดันกลุ่มคนออกจากพื้นที่หน้าสถานทูต ระบุอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พิสูจน์ตัวบุคคลผู้กระทำผิดรายอื่นต่อไป

วันนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมผู้ชุมนุมทำกิจกรรม ต่อต้านการรัฐประหารของประเทศเมียนมา ที่บริเวณหน้าสถานฑูตเมียนมา ถนนสาทรเหนือ เมื่อช่วงเย็นวานนี้(1ก.พ.) นั้นว่า ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย อีกทั้งประเทศไทย มีสนธิสัญญาในการดูแลความปลอดภัยสถานทูตเมียนมา

ผบช.น.แจงเหตุจำเป็นต้องปะทะหน้าสถานทูตเมียนมา

 

โดยเมื่อวานนี้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งชาวเมียนมา และกลุ่มผู้ชุมนุมชาวไทยเอง ที่ไปทำกิจกรรมด้านหน้าสถานทูต ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ ถือว่ามีความผิดตาม กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อมาการชุมนุมมีการปิดการจราจรบนถนนสาทร ซึ่งทางตำรวจได้มีการประกาศเตือนให้ยุติการชุมนุม ทั้งภาษาไทย และภาษาเมียนมา เพื่อให้เกิดความเข้าใจ แต่ก็ไม่ยินยอมให้ความร่วมมือแต่อย่างใด 

 

จากนั้นทางตำรวจจึงมีความจำเป็นต้องทำการผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ ออกจากพื้นที่หน้าสถานทูต ตลอดจนเพื่อทำการเปิดเส้นทางการจราจร ซึ่งในระหว่างที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการนำพลุควัน โยนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเกิดเสียงดังขึ้น และมีควันพวยพุ่ง

 

ทั้งนี้การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 15 นาย มีบาดเจ็บเล็กน้อย 13 นาย และอีก 2 ราย บาดเจ็บแก้วหูฉีกขาด ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว

 

ส่วนบุคคลที่ทางตำรวจสามารถจับกุมตัวไว้ได้ มี 3 คน เบื้องต้นมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานอย่างชัดเจนแล้ว 2 คน และอีกรายนั้นเป็นบุคคลที่อยู่ประจำรถติดเครื่องขยายเสียง โดยมีการยุยงให้ผู้ชุมนุมกระทำความผิด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

นอกจากนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ผู้กระทำความผิดรายอื่นเพิ่มเติมอีกครั้ง หากพบว่ามีผู้ใดกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกันต่อไป

ผบช.น.แจงเหตุจำเป็นต้องปะทะหน้าสถานทูตเมียนมา

 

 

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ตำรวจนครบาล และตำรวจสันติบาล มีแผนรองรับในการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว ซึ่งจากการข่าว ยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ แต่ทั้งนี้ ตำรวจยืนยัน ต้องดำเนินคดี

 

กรณีเมื่อวานนี้ กลุ่มคนสัญชาติเมียนมา และกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า การ์ดวีโว่ ชุมนุมที่หน้าสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เนื่องจาก เป็นการชุมนุมที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา ดังนั้น จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์การเคลื่อนไหวใด ๆ ในช่วงนี้ หากเป็นไปได้ ให้เลือกใช้วิธียื่นหนังสือผ่านตัวแทนที่เกี่ยวข้อง

 

นอกจากนี้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังได้ยืนยันความพร้อมการดูแลสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในประเทศเมียนมา ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงของไทย มีความพร้อมในการดูแลตามด่านเข้าออกต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์ยังปกติ และแทบทุกด่าน ยังสามารถค้าขายและเดินทางข้ามไปมาได้

ผบช.น.แจงเหตุจำเป็นต้องปะทะหน้าสถานทูตเมียนมา

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ