ข่าว

"ศรีสุวรรณ"สงสัย กฟภ.รับจ้างกรมศิลปากรประดับไฟมรดกโลกอยุธยามีกลิ่นตุๆ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ศรีสุวรรณ"สงสัย กฟภ.รับจ้างกรมศิลปากรประดับไฟมรดกโลกอยุธยามีกลิ่นตุๆ

 เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่กรมศิลปากรได้ว่าจ้างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการประดับไฟโบราณสถานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวในยามค่ำคืน ในบริเวณพื้นที่มรดกโลกอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 6 วัด เช่น วัดภูเขาทอง วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดไชยวัฒนาราม วัดมหาธาตุ วัดราษบูรณะ วัดพระราม วักเกตุ และอีก 3 สถานที่ อาทิ คุ้มขุนแผน ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ในวงเงินกว่า 91 ล้านบาท (ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี ก.ค.61-มิ.ย.62) โดย กฟภ.มิได้เป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ได้ว่าจ้างผู้รับเหมาช่วงให้ทำงานแทน คือ บ.เอส.ที.พี.เอ็นจิเนียริ่ง โปรเจ็ค จก.ในวงเงินประมาณ 78 ล้านบาท (ระยะเวลาดำเนินการ 7 เดือน พ.ย.61-พ.ค.62) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าที่ กฟภ.รับจากกรมศิลปากรมาประมาณ 13 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวที่หายไปเป็นค่าใช้จ่ายอะไรไม่มีใครทราบนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ศรีสุวรรณ" บุก "ก.แรงงาน" แนะใช้ ม.14 พรก.บริหารคนต่างด้าวจัดการโควิด-19

ต่อมาเมื่อกลางปี 2562 ผู้รับเหมาช่วงของ กฟภ.ได้มีการขุดวางแนวสายเคเบิลเพื่อวางระบบไฟฟ้าส่องสว่างที่วัดไชยวัฒนารามซึ่งมีอายุกว่า 400 ปี เป็นเหตุให้อิฐและกำแพงโบราณถูกทำลายเพื่อเปิดทางในการวางสายเคเบิ้ล-สายไฟฟ้าลงดิน จนกลายเป็นข่าวดังที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศในขณะนั้น แต่กรมศิลปากรอ้างว่าเป็นอิฐกำแพงใหม่เมื่อดำเนินการวางสายเคเบิ้ลเสร็จแล้วได้ทำการก่อซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิมแล้ว

 

กระทั่งบัดนี้การดำเนินงานโครงการดังกล่าวก็ยังไม่แล้วเสร็จ แม้จะเลยระยะเวลาของสัญญาจ้างและการขยายระยะเวลาการจ้างที่กรมศิลปากร มีต่อ กฟภ. มานานหลายครั้งแล้วก็ตาม จึงเป็นที่สงสัยกันมากว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบในเชิงลึกพบว่า อาจมีเหตุมาจากบริษัทไฟส่องสว่างที่พยายามวิ่งเต้นขอเปลี่ยนไฟส่องสว่างจากยี่ห้อหนึ่งไปเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในแบบสัญญาจ้าง แต่บริษัทผู้รับเหมาช่วงไม่ยินยอมเพราะกลัวผิดสัญญา จึงเกิดการเขม่นกันขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนผู้บริหาร กฟภ.ใหม่เมื่อ ต.ค.63 จึงมีการบอกเลิกสัญญากับผู้รับจ้างช่วงในเดือน พ.ย.63 โดย กฟภ.นำมีผู้รับเหมาช่วงรายใหม่ให้เข้ามาทำงานทับซ้อนกับผู้รับเหมาช่วงรายเดิมที่ทำงานแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 90% แต่กลับไม่มีการเคลียร์ค่าใช้จ่ายคงค้างให้กันและกัน

นอกจากนั้นกลับมีการจัดทำโครงการอนุรักษ์และพัฒนาโบราณสถานที่ทับซ้อนกันกับโครงการประดับไฟฯ ทำให้งานล่าช้าอีกด้วย โดยที่คณะกรรมการตรวจการจ้างส่วนใหญ่ก็รับรู้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น แต่กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสีย และเมื่อตรวจสอบรายละเอียดของการดำเนินการตามแบบของโครงการฯมีข้อพิรุธอีกมากมาย ที่ส่อไปในทางมิชอบ ซึ่งเพื่อประโยชน์ในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินซึ่งมาจากภาษีของประชาชน สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะรวบรวมรายละเอียดของข้อพิรุธต่างๆไปร้องเรียนกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร และหรือให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และ ป.ป.ช. ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใสและเอาคนผิดที่เกี่ยวข้องมาลงโทษต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ