"เพื่อไทย"ตั้งกระทูถามนายกฯ ขอแนวทางช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบที่ได้รับผลกระทบ

จากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร  ครั้งที่ 1 สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 ว่า นายนิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ. สกลนคร พรรคเพื่อไทย ขอตั้งกระทู้แยกเฉพาะเรื่องขอให้ส่งเสริมอาชีพการปลูกใบยาสูบและชะลอการขึ้นภาษียาสูบ ถามนายกรัฐมนตรี ขอแนวทางช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบที่ได้รับผลกระทบด้านราคาและการลดโควตารับซื้อใบยา เนื่องจากภาษียาสูบที่สูงเกินไป  “การปลูกยาสูบเป็นวิถีชีวิตของเกษตรกร แต่ชาวไร่ยาสูบกลับต้องประสบวิบากกรรมมาตลอดหลายปี จากกระแสการต่อต้านการสูบบุหรี่และการขึ้นภาษียาสูบ แถมเป็นพืชที่ไม่ค่อยได้รับการส่งเสริม กระทรวงเกษตรก็ไม่สนใจ กระทรวงการคลังก็เก็บแต่ภาษี จ. สกลนคร แม้จะมีพื้นที่ปลูกไม่มาก เพียง 380 ไร่ต่อปี แต่ทั่วประเทศมีการปลูกยาสูบประมาณ 1.3 แสนไร่ ผลผลิตกว่า 3 หมื่นตัน รายได้ ก.ก. ละ 60 กว่าบาท ทำให้ชาวไร่มีรายได้เพิ่มที่สามารถส่งลูกหลานเข้าเรียนได้ จึงอยากถามว่าท่านนายกฯ และท่าน รมว. คลังว่ามีแนวทางช่วยเหลือชาวไร่ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีอย่างไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะชะลอการขึ้นภาษียาสูบ”

 

 

 

นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ตอบแทน โดยนายอาคม กล่าวว่า “การปรับโครงสร้างและอัตราภาษียาสูบเมื่อปี 2560 เป็นมาตรการที่สอดคล้องกับคำแนะนำของ WHO เพื่อลดการบริโภคยาสูบภายในประเทศ จนทำให้ ยสท. ต้องลดโควตาการรับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ลงเฉลี่ย 40% เพื่อให้ปริมาณวัตดุดิบสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ในส่วนนี้รัฐบาลรับทราบถึงปัญหาและพยายามดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรมาโดยตลอด ปีที่ผ่านมา รัฐบาลให้การช่วยเหลือโดยจ่ายค่าชดเชยให้กับชาวไร่ 1.5 หมื่นราย ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 133 ล้านบาท และหาทางแก้ไขในระยะยาว โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อหาพืชทดแทนที่เหมาะสมให้กับชาวไร่ยาสูบ 
 

“กระทรวงฯ ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณกลาง 159.59 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรยาสูบจากการถูกลดโควตาในฤดูกาลปลูกปี 2562-63 แต่ก็ต้องชะลอการช่วยเหลือไปก่อน เนื่องจากประเทศกำลังประสบปัญหาโควิด ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็จะหาทางช่วยเหลือต่อไป”

ในช่วงท้าย นายนิยม ลุกขึ้นถามอีกครั้งถึงกรณีแนวทางการชะลอการขึ้นภาษีเพื่อให้ชาวไร่ได้มีเวลาสำหรับปรับตัว ซึ่งนายอาคมตอบว่า การจะปรับอัตราภาษีใหม่ กระทรวงฯ จะพิจารณาผลกระทบทั้งในส่วนของชาวไร่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยาสูบ และนโยบายทางด้านสาธารณสุข และระดับราคาที่ส่งผลต่อการลักลอบสินค้าหนีภาษีเข้ามาในประเทศ

 

 

ด้านนางตีรณา หารธงชัย ตัวแทนเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสาน จ. สกลนคร กล่าวหลังทราบว่ามีการพูดคุยเรื่องชาวไร่ยาสูบในที่ประชุมสภาฯ ว่า “พวกเราชาวไร่ยาสูบ จ. นครและอีก 31 จว. ทั่วประเทศขอขอบคุณท่าน ส.ส. นิยมที่ช่วยถามคำถามที่อยู่ในใจของพวกเราชาวไร่ที่ต้องเดือดร้อนตลอด 3 ปีตั้งแต่มีการขึ้นภาษียาสูบเมื่อปี 2560 คำตอบของท่าน รมว.คลัง ทำให้พวกเรามีความหวังว่าจะได้รับเงินชดเชยจากการถูกลดโควตาภายในสิ้นปีนี้ และในระหว่างนี้ก็อยากขอให้กระทรวงการคลังเลื่อนการขึ้นภาษีออกไปก่อนอีก 2 ปี เพราะเรื่องพืชทดแทนก็ยังไม่มีความคืบหน้า และในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ดีแบบนี้ การขึ้นภาษีจะยิ่งทำให้บุหรี่เถื่อนทะลักประเทศแน่ ๆ หากรัฐจำเป็นต้องปรับขึ้นภาษีจริง ก็อยากให้รัฐบาลรอจนเศรษฐกิจดีขึ้นก่อน และค่อย ๆ ปรับขึ้นภาษี ไม่ควรขึ้นทีละเยอะ ๆ เพื่อให้มีพวกเรามีเวลาในการปรับตัวในการหาพืชทดแทนเพิ่มขึ้น”

 

ตีรณา หารธงชัย