ป่วยหมดทางรักษาและเจ็บปวดมานานเกินทน ขอร้องประธานาธิบดีไฟเขียวการุณยฆาต ไม่สำเร็จ ตัดสินใจเลือกไลฟ์วาระสุดท้ายก่อนสิ้นลม
อแลง ค็อก ชาวฝรั่งเศส วัย 57 ปี จากเมือง Dijon ทางตะวันออก ผู้ป่วยติดเตียงเป็นโรคหายากที่ไม่มีทางรักษา แต่ไม่สามารถลอบบี้ประธานาธิบดีเอ็มนามูแอล มาครง อนุญาตให้เขาเสียชีวิตยุติความทรมานสุดจะทานทนแบบได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้ จึงตัดสินใจไลฟ์ความตายของตัวเอง โดยประเมินว่าจะมีลมหายใจอีกไม่กี่วัน หลังหยุดรักษา หยุดรับอาหารและดื่ม นับจากเวลา 23.00 น.เมื่อวานตามเวลาสหรัฐ หรือ 04.00 น. วันนี้( 5 ก.ย.) ตามเวลาในประเทศไทย
ค็อกเป็นโรคเสื่อม หรือกลุ่มโรคที่มีการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อไปเรื่อย ๆ ทำให้การทำงานของอวัยวะถดถอยลงจนทำไม่ได้ หลอดเลือดแดงของค็อกล้มเหลวมารวมติดกัน ส่งผลให้หลอดเลือดสมองโป่ง ชักเกร็ง และเจ็บปวดต่อเนื่อง เขาเป็นผู้ป่วยติดเตียง 2 ปีแล้ว จนมาถึงจุดที่ทนความทรมานไม่ไหวอีกต่อไป
แต่การุณยฆาตเป็นเรื่องผิดกฎหมายในฝรั่งเศส การให้ยากดประสาทอย่างลึกและต่อเนื่อง ที่เร่งการเสียชีวิต หรือช่วยให้ผู้ป่วยหรือใครก็ตามหมดสติจนเสียชีวิต ก็เป็นเรื่องผิดกฎหมายเช่นกัน เว้นแต่อยู่ภายใต้พฤติการณ์จำเพาะ ภายใต้กฎหมาย Claeys-Leonet ปี 2559 แต่ค็อกไม่เข้าเงื่อนไข กระนั้น พลเมืองฝรั่งเศสมีสิทธิหยุดรักษาได้ และกฎหมายฝรั่งเศสไม่เอาผิดการฆ่าตัวตาย
ค็อก ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรยกระดับชีวิตผู้พิการ เขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีมาครง เมื่อ 20 ก.ค. โดยยืนยันว่า ณ วันที่เขียนจดหมายยังมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ดี เขาต้องการจากโลกนี้ไปอย่างมีศักดิศรีด้วยความช่วยเหลือทางการแพทย์ และขอให้มาครงทบทวนกฎหมายที่ห้ามบุคลากรการแพทย์ใช้ยาช่วยให้ผู้ป่วยใกล้ตายพ้นจากความทรมาน
“บางคนใช้คำว่า การุณยฆาตแบบแอคทีฟ หรือฆ่าตัวตายแบบได้รับความช่วยเหลือ แต่สำหรับผม คำเหมาะสมที่สุดคือการจบชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีด้วยความช่วยเหลือทางการแพทย์”
ด้าน ประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า จดหมายของค็อกทำให้เขาสะเทือนใจ และชื่นชมพลังใจในการต่อสู้กับความเจ็บป่วย แต่เขาไม่อาจทำตามคำร้องของเขาได้ เพราะไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย และไม่สามารถขอร้องให้ใครล้ำเส้นกฎหมายปัจจุบันได้
ค็อก ให้สัมภาษณ์ CNN ว่า คาดไว้อยู่แล้วว่ามาครงจะทำตามคำร้องขอของเขาไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณในความเห็นใจ เขาตัดสินใจจบชีวิตตนเองเมื่อ 26 มิถุนายน วันที่เขาขอความช่วยเหลือทางการแพทย์แบบที่ระบุในจดหมายส่งถึงประธานาธิบดี เขารู้ว่าจะต้องทรมานกับความเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยทนมาก่อน ประมาณ 5-7 วันจากนี้ไป การตัดสินใจไลฟ์สตรีมการตายของตัวเองผ่านเฟซบุ๊ก(แบบไม่มีเสียง) เพราะอยากให้รับรู้เรื่องที่ทุกคนได้เห็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วแต่ปฏิเสธพูดถึงนั่นคือ ความเจ็บปวด “ผมเลือกเผยความเจ็บปวดนี้ เพราะพื้นฐานของประชาธิปไตยคือพลเมืองมีทางเลือกเสรี และการตายก็น่าจะเป็นประชาธิปไตยเช่นกัน” ส่วนในมุมศาสนา ค็อกซึ่งเป็นชาวคริสเตียน ไม่เชื่อว่าการทำเช่นนี้ขัดหลักศาสนา “พระเจ้าคือความรัก และพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้ลูกของพระองค์ทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็น”
ค็อกหวังว่าการประท้วงด้วยการถ่ายทอดสดความทรมานครั้งสุดท้าย จะปูทางสู่การแก้ไขกฎหมาย
ไลฟ์สตรีมการตายของผู้ป่วยฝรั่งเศสรายนี้ จุดหลายคำถาม ตั้งแต่ว่า คนที่ช่วยให้ค็อกจบชีวิตตนเองในงานนี้ จะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ทางการจะแทรกแซงหรือไม่ และ การถ่ายทอดสดการตายของคนคนหนึ่งจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินต่อไปหรือไม่ภายใต้นโยบายของเฟซบุ๊ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง