ข่าว

สารภาพแล้ว หนุ่มขับรถเทรลเลอร์ เอาATM กดเอาเงินไปจริง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มขับรถเทรลเลอร์ ที่ถูกกล่าวหาเอาบัตร ATM ของผู้ป่วยโรคไต ไปกดดูยอดเงิน แล้วเงิน"เราไม่ทิ้งกัน"หายไป 3 พัน ปฏิเสธมาตลอดระบุไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ล่าสุดสารภาพกับตำรวจแล้ว ว่าได้กดเอาไปจริง

วันที่ 29 เม.ย.2563 กรณีนายณรงค์ศักดิ์ คล้ายกระแส อายุ 47 ปี ให้นางสุทาทิพย์ แก้วนะทะ อายุ 44 ปี น้องสาว ไปร้องต่อ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง อ.นางรอง ให้ช่วยติดตามบุคคลต้องสงสัย เอาบัตร ATM ไปกดเอาเงินไปจำนวน 3,000 บาท ระหว่างนอนรักษาตัวด้วยโรคไตที่โรงพยาบาลนางรอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา

จนทราบต่อมาว่า ผู้เอาบัตรไปกดเงินคือนายสมปอง สิมาเลาเต่า อายุ 34 ปี ชาว ต.ชุมแสง อ.นางรอง อาชีพขับรถเทลเลอร์ส่งสินค้าตามห้างสรรพสินค้า และได้ไปทำงานต่างจังหวัดแล้ว

หลังจากนั้นนายสมปอง และภรรยาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทางโทรศัพท์ มาโดยตลอด ว่าไม่เคยกดเอาเงินไป เพราะตนและครอบครัวไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน แต่จะคืนเงินให้จำนวน 3,000 บาท ตามคำร้องขอของนายณรงค์ศักดิ์ เพราะไม่อยากจะเสียเวลาทำมาหากิน แต่ก็อยากจะให้มีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่า”ใครเป็นคนกดเงินไป”

สารภาพแล้ว หนุ่มขับรถเทรลเลอร์ เอาATM กดเอาเงินไปจริง

สารภาพแล้ว หนุ่มขับรถเทรลเลอร์ เอาATM กดเอาเงินไปจริง

ล่าสุดนายสมปอง สิมาเลาเต่า ผู้ถูกกล่าวหา เดินทางมาพบ พ.ต.อ.ภควัตร ธรรมดี ผกก.สภ.นางรอง อ.นางรอง ตามหมายเรียก จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสมปอง ยังให้การปฏิเสธ ผกก.ใช้เวลาประมาณ 30 นาที นายสมปอง จึงเปิดปากยอมรับว่า ได้เป็นคนกดเอาเงินไปจริง เพียงแค่เอาเงินไปติดตัว แต่ยังไม่ได้เอาเงินไปใช้

ขณะ น.ส.ประกาย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ภรรยานายสมปอง กล่าวว่า ถึงเวลานี้ก็ยังไม่เชื่อว่าสามีกดเงินไปจริง เพราะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อยากรู้ถึงแรงจูงใจของสามีว่า ทำไมถึงไปกดเงินของเขาไป

สารภาพแล้ว หนุ่มขับรถเทรลเลอร์ เอาATM กดเอาเงินไปจริง

สารภาพแล้ว หนุ่มขับรถเทรลเลอร์ เอาATM กดเอาเงินไปจริง

ด้าน พ.ต.อ.ภควัตร ธรรมดี ผกก.สภ.นางรอง ระบุว่า หลังจากเกิดเรื่อง ตำรวจได้ทำการตรวจสอบทั้งกล้องวงจรปิด และหลักฐานอื่น จนมีการออกหมายเรียก และรับสารภาพในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ตำรวจจำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหา เพราะการกระทำผิดได้สำเร็จแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเลคทรอนิคของผู้อื่นโดยมิชอบ และอยากเตือนผู้ที่คิดจะกระทำการในลักษณะนี้ เพราะถือเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้

ขณะที่นายณรงค์ศักดิ์ คล้ายกระแส อายุ 47 ปี ผู้ป่วยโรคไต และเป็นผู้เสียหาย ในคดีนี้ กล่าวว่า ตนมีอาชีพหาของเก่า หลังตกงานก็หวังที่จะได้เงินเยียวยาของรัฐบาล แต่ไม่คิดว่าเงินจะหายไปง่ายๆแบบนี้

เป้าหมายส่วนตัวยังเหมือนเดิมคือไม่อยากจะให้ตำรวจดำเนินคดี เพียงแค่อยากได้เงินคืนเท่านั้น เพราะไม่อยากให้ติดคุก เพราะสงสาร แต่ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจและกฎหมาย ส่วนตัวให้อภัย

สารภาพแล้ว หนุ่มขับรถเทรลเลอร์ เอาATM กดเอาเงินไปจริง

ภาพ/ข่าว ธีรยุทธ ชำนาญกอง ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ