ข่าว

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผีน้อยสาวอุดร ป่วยตายอีกรายเกาหลี แม่เชื่อเป็นลูกฝาแฝดตายตามกันเตรียมหายืมเงินนำกระดูกกลับบ้านเกิด

 

 

     มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “RUNG PARK” ได้โพสข้อความประกาศ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.  ว่า “ประกาศ...ข่าวจาก สถานทูตค่ะ ทางโรงพยาลโทรศัพท์ไปที่สถานทูตว่า มีคนไทยเสียชีวิต ชื่อ น.ส.อริยา วงษ์คำพระ เกิดที่ บ้านผักตบ อ.หนองหาน อุดรธานี อายุ 44 ปี ทาง รพ.แจ้งมาตามหาญาติ คนที่รู้จักเข้า รพ. ด้วยอาการป่วยฉุกเฉิน แต่เสียชีวิตวันนี้ ใครพอจะรู้จักว่า(คนเสียชีวิตนี้ทำงานที่ไหน เขตอะไร เงินเดือนมีไหม) แจ้งให้ สถานทูตทราบด้วย 02-7950095 ต่อ  106 คุณพี่วนิดา ขอบคุณค่ะ ฝากแชร์ให้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ ทางบ้านทราบข่าวแล้วค่ะ” พร้อมนำหน้าเพจเฟสบุ๊ค ชื่อ Ariya Wongkhumpa ของผู้เสียชีวิตมาลง เพื่อให้ญาติของผู้เสียชีวิตใน อ.หนองหาน รับทราบ  

วันที่ 18 ธันวาคม 2562 เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ได้เดินทางไปยัง บ้านเลขที่ 129 ม.13 บ้านผักตบ ต.ผักตบ อ.หนองหาน บ้านของ น.ส.อริยา วงษ์คำพระ อายุ 44 ปี แรงงานที่ลักลอบไปทำงานที่เกาหลีใต้ หรือ ผีน้อย ที่เสียชีวิต พบกับ นางเล็ก วงษ์คำพระ อายุ 64 ปี แม่ของ น.ส.อริยาฯ และ  นายคิมหันต์ คุริมา อายุ 15 ปี ลูกชาย น.ส.อริยาฯ พร้อมญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน ที่ทราบข่าว มาให้กำลังใจ พร้อมพูดคุยปลอบใจ นางเล็กฯ ที่ลูกสาวต้องเสียชีวิตที่เกาหลีใต้

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

 

 

 

 

 

      นางเล็ก วงษ์คำพระ เปิดเผยว่า ตนเป็นชาวนา สามีเสียชีวิตนานแล้ว มีลูกสาวฝาแฝด 2 คน แฝดพี่ชื่อ น.ส.ปรารถนา วงษ์คำพระ เพิ่งเสียชีวิตที่บ้าน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ส่วนแฝดน้อง คือ น.ส.อริยาฯ ที่เพิ่งเสียชีวิต โดยลูกสาวเคยแต่งงาน แต่หย่าร้างกันนานแล้ว มีลูก 2 คน คนโตอายุ 26 ปี ตอนนี้ไปทำงานที่ไต้หวัน ส่วนคนเล็ก คือ นายคิมหันต์ฯ กำลังเรียนชั้น ม.3 ที่เขารู้แล้วว่าแม่เขาตายแล้ว ซึ่งก่อนไปทำงานที่เกาหลี ลูกสาวทำงานรับจ้างอยู่ทั้งที่ อ.หนองหาน และในตัวเมือง จนประมาณเกือบ 2 ปีที่แล้ว ลูกสาวบอกจะไปทำงานที่เกาหลีใต้ เสียค่าใช้จ่ายประมาณเกือบ 2 แสนบาท โดยจะไปทำงานแบบผิดกฎหมาย เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 2 แสนบาท

หลังจากนั้นตนได้กู้ยืมเงินมา ให้ลูกไปทำงาน โดยไปทำงานเดือนมกรกาคม ปี 2561 เกือบจะ 2 ปี แล้ว 3 เดือนแรกเขาทำงานที่ร้านอาหาร จนวีซ่าท่องเที่ยวหมดอายุ นายจ้างจึงไม่จ้างงานต่อ ทำให้ลูกสาวออกจากงาน ลูกสาวจึงนำเงินที่ได้วิ่งหางานทำต่อที่นั่น ทั้งเป็นค่ารถ ค่าที่พัก ค่าหางาน จึงไม่ค่อยส่งเงินกลับมาบ้าน แต่ตนกับลูกสาว  ก็ทยอยจ่ายเงินกู้ไปหมดแล้ว ซึ่งปกตินาน ๆ ลูกสาวถึงจะโทรศัพท์มาหาตน ไม่ค่อยได้คุยกัน จึงไม่รู้ว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไร ส่วนใหญ่เขาจะโทรคุยกับลูกชาย ซึ่งก่อนที่จะไปเกาหลี ลูกสาวก็เป็นคนแข็งแรง ไม่เคยป่วยเป็นอะไรกับเขาเลย ล่าสุดเขาทำงานโรงงานผ้าห่มอยู่ที่โน่น 

 นางเล็ก เล่าอีกว่า วานนี้มีมีเพื่อนลูกสาว ที่ไปทำงานที่เกาหลี โทรมาบอกว่า ลูกสาวป่วยมีเลือดออกทางปากและจมูก โดยได้ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่เกาหลีไม่ถึงวัน แล้วเสียชีวิต ตอนนั้นตนตกใจ เสียใจ ร้องไห้ ที่ทราบข่าว  หลังจากนั้นมีคนจากสถานกงสุล โทรมาแจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิต ถามเรื่องศพจะนำศพกลับ หรือจะเอาเป็นกระดูกกลับ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการนำศพกลับจะสูงมาก รวมทั้งค่ารักษาพยาบาล ที่มีค่าใช้จ่ายเกือบ 5 แสนบาท ตนจึงขอเป็นกระดูกกลับมา ส่วนค่ารักษาประมาณ 2-3 แสนบาท เพื่อนของลูกสาวและคนงานที่นั่น เขาร่วมกันลงขันช่วยเหลือจ่ายไปก่อน ทราบว่าได้ประมาณ 1.5 แสนบาท ส่วนค่านำกระดูกกลับ ค่าเผาศพอีกประมาณ 2 แสนบาท แต่ขณะนี้ไม่มีเงินเลย คงต้องนำที่นาประมาณ 10 ไร่ ไปใช้กู้เงินมาจ่าย และค่ารักษาพยาบาลลูกสาวด้วย

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

 

        นางเล็ก กล่าวอีกว่า ลูกสาวแฝดคนโต เพิ่งป่วยตายเมื่อช่วงต้นปี มาท้ายปีลูกสาวแฝดน้อง ก็มาป่วยตายตาม ตนเชื่อว่า เป็นเรื่องตามที่มีคนบอกว่า ฝาแฝดเวลาที่เกิด ก็เกิดด้วยกัน เวลาเขาตาย ก็ต้องตายด้วยกัน ซึ่งลูกสาวแฝดทั้ง 2 คน  ต่างก็หย่าร้างทั้งคู่ และก็มีลูกคนละ 2 คน ลูกคนโตของทั้ง 2  ก็ไปทำงานที่ไต้หวัน ต่อไปคงต้องเลี้ยงดูหลาน 2 คน ที่เป็นลูกของแฝดพี่ 1 คน และลูกของ อริยา แฝดน้อง อีก 1 คน อยากให้หน่วยงานราชการมาช่วยเหลือบ้าง

ด้านนายคิมหันต์ คุริมา อายุ 15 ปี ลูกชาย น.ส.อริยาฯ บอกว่า คุยกับแม่ครั้งสุดท้ายวันที่ 15 ธันวาคม โทรไปขอเงินกับแม่ ตอนนั้นแม่ไม่ได้ว่าป่วยหรือเป็นอะไร จนยายมาบอกว่าแม่ตายแล้ว จึงร้องไห้เสียใจ เมื่อนำแม่กลับมา ตนจะบวชหน้าไฟให้แม่ และจะตั้งใจเรียนให้จบสูง ๆ เพื่อจะได้ดูแลยายที่แก่มากแล้ว

ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางาน จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบหลักฐานข้อมูลว่า น.ส.อริยาฯ ไปทำงานในประเทศเกาหลี ที่ภาครัฐจัดส่งไป คาดว่าลักลอบเดินทางเข้าไปทำงาน หรือ ที่เรียกว่า ”ผีน้อย” ได้ประมาณ 1 ปีเศษ ล่าสุดทำงานในโรงงานผลิตผ้าห่ม สาเหตุการเสียชีวิตรับแจ้งว่า มีอาการอาเจียนออกมาเป็นเลือด และมีตัวบวม เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และเสียชีวิตลง ทั้งนี้ น.ส.อริยาฯ เข้าไปทำงานในลักษณะลักลอบผิดกฎหมาย จึงไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือ จากกองทุนเงินช่วยคนหางานทำในต่างประเทศ  และการช่วยเหลือจากสิทธิต่าง ๆ ของทางราชการ

แต่อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี มีฐานข้อมูลว่า น.ส.อริยาฯ เคยทำงานในประเทศ และมีการทำประกันตนเอาไว้ มีสิทธิที่จะได้รับเงินชดเชยจากกองทุนประกันสังคม เป็นยอดเงินประมาณ 1 หมื่นบาทเศษ ไม่รวมดอกเบี้ย ซึ่งได้รายงานให้กับอธิบดีกรมการจัดหางาน รับทราบแล้ว จึงขอฝากเตือนผู้ที่จะเดินท่างไปทำงานต่างประเทศในลักษณะผิดกฎหมาย เพราะหากเกิดเหตุอะไรขึ้น ทางราชการจะไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เลย และหากถูกจับ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของแต่ละประเทศด้วย หากจะไปทำงานสามารถมาสมัครลงทะเบียนกับทาง สนง.จัดหางานจังหวัด ได้ทุกแห่งทั่วประเทศ

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

 

สาวอุดรป่วยดับที่เกาหลี แม่เชื่อเสียชีวิตตามแฝดน้อง

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว  ภูมิภาค จ.อุดรธานี 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ