ฝ่ายค้านจ่อหารือ "ชวน" เลื่อนวันซักฟอกเป็น 17 ก.ย

          รัฐสภา- 5 ก.ย.62-ฝ่ายค้านจ่อหารือ “ชวน” เลื่อนวันซักฟอกเป็น 17 ก.ย.แทน หลังศาล รธน.นัดอ่านคำวินิจฉัยคุณสมบัติ “ประยุทธ์” 18 ก.ย. ดักคอ “บิ๊กตู่” อย่าหนีสภาฯ ซัดกลับอย่าไอโอ ลากฝ่ายค้านเอี่ยวพาดพิงสถาบัน

         ตัวแทน 7 พรรคฝ่านค้านนำโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือ วิปฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งให้ทราบว่าศาลจะนัดอ่านคำวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 วรรค1 (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 (15) หรือไม่ในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 14.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ  
        นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะตรงกับวันที่จะมีการอภิปรายโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ทั้งเรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน และการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่บอกแหล่งที่มาของงบประมาณ เราเกรงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างไม่มาตอบคำถามในสภาฯ จึงอยากแจ้งสื่อมวลชนไว้ล่วงหน้าว่าการอ่านคำวินิจฉัยจะเริ่มช่วงเวลา 14.00น. โดยคาดว่าใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ขณะที่เราเริ่มประชุมกันตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงเวลาเที่ยงคืน และคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาตอบคำถามในช่วงค่ำ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเวลาที่ศาลนัดอ่านคำวินิจฉัย ดังนั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่มาตอบก็เท่ากับหนีสภาฯ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ไม่จำเป็นต้องไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเองในวันดังกล่าว 
 

             ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อสังเกตอยู่ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือวันนี้รัฐบาลมีการสร้างข่าวไอโอ ลดน้ำหนักเรื่องการอภิปรายตามมาตรา 152  กล่าวหาว่าฝ่ายค้านละเลยปัญหาน้ำท่วมของชาวบ้าน แต่สนใจเรื่องการถวายสัตย์ ซึ่งเราขอชี้แจงว่าเราไม่ได้ละเลยปัญหาน้ำท่วม หรือความเดือดร้อนของประชาชน โดย ส.ส.ฝ่ายค้านได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือและประจำอยู่ในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วม ทำให้วันนี้เราวิตกว่าการลงมติในวันนี้น่าจะมีปัญหา เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่ ตรงกันข้ามรัฐบาลซึ่งมีศักยภาพทั้งงบประมาณและกลไกในการช่วยเหลือประชาชน  กลับไม่เห็นรัฐบาลใช้ประสิทธิภาพเหล่านี้ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ดังนั้นเรารู้ทันว่านายกฯ จะเอาปัญหาน้ำท่วมมาทำลายน้ำหนักของเรา และประเด็นที่สองตนรู้สึกไม่สบายใจในประเด็นที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ที่บอกว่า “การถวายสัตย์จบแล้ว สมบูรณ์แล้ว ไปดูสิว่าใครลงพระปรมาภิไธย พระบรมราชโองการว่าอย่างไร” ซึ่งการให้สัมภาษณ์อย่างนี้ทำให้เราไม่สบายใจ คือนายกฯ ใช้ถ้อยคำที่ไม่ค่อยเหมาะสม อยากให้นายกฯ ระมัดระวังและทบทวน ถ้าคิดว่าคำนี้ไม่เหมาะสม พลาดพลั้งไป ก็ขอให้หาทางแก้ไข เพราะถ้าเป็นเราจะไม่ใช้คำพูดนี้ ส่วนอีกมุมหนึ่งมองได้ว่าวันนี้ฝ่ายรัฐบาลกำลังจะลากฝ่ายค้านไปพูดเรื่องนี้ด้วย แต่การอภิปรายตามมาตรา 152 นั้น ไม่เกี่ยวกับสถาบัน แต่รัฐบาลพยายามพูดหลายครั้งเพื่อลากเราเข้าไปใกล้ เข้าไปนัวเนียกับเบื้องบน ดังนั้นขอเตือนว่าเรารู้ทัน เราจะไม่พูด และรัฐบาลอย่าทำแบบนี้เพื่อหวังว่าจะได้ประชุมลับหรือปัดความผิดว่าไม่ได้อยู่ที่ตัวนายกฯ ดังนั้นจึงขอให้หยุดเพราะเรารู้ทัน และเราจะไม่มีการอภิปรายไปถึงสถาบันอย่างแน่นอน  

             นายสุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เราจะมีการขอหารือนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในวันนี้เพื่อขอขยับวันอภิปรายขึ้นมาเป็นวันที่  17 ก.ย.แทน เพราะเราเชื่อว่านายชวนยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยดังกล่าวในวันที่ 18 ก.ย. และเชื่อว่าประธานสภาฯ จะไปหารือกับรัฐบาลได้ เพื่อให้นายกฯ ยกเลิกภารกิจอื่นๆ เพื่อมาชี้แจงในเรื่องนี้แทน ยืนยันว่าเราไม่ได้มากเรื่อง แต่อยากให้ประธานสภาฯ ทบทวน ทั้งนี้ การบริหารบ้านเมืองต้องบริหารทุกเรื่องไปพร้อมๆ กัน หากนายกฯ ทำทีละเรื่อง บ้านเมืองแย่แน่นอน