ร้องผู้ตรวจฯส่งทีมสอบคดีปาล์มน้ำมันเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปอินโด

"ทนายแนนซี่" ร้องผู้ตรวจ ส่งตัวคณะทำงานชุดสอบทุจริตปาล์มน้ำมันไปอินโดนีเซีย กรณีถุงสินบนจูงใจพยาน ระบุคดีเพิ่งแจ้งความในชั้นตำรวจ แต่ขอทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนไว้ก่อน หลังร้องป.ป.ช.แล้วเรื่องเงียบ

          สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน -16 ส.ค.62 เวลา 14.30 น. นายสยามราช ผ่องสกุล ที่ปรึกษากฎหมายของนางแนนซี่ มาตาซูตะ อดีตประธานสภาหอการค้าไทยอินโดนีเซีย ชาวอินโดนีเซีย เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาตรวจสอบการทำหน้าที่ของคณะทำงานตรวจสอบพยานหลักฐานในคดีทุจริตโครงการปลูกปาล์มน้ำมันที่ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไทยแล้วก็เรื่องยังเงียบอยู่ นางแนนซี่จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกกลั่นแกล้ง โดยนางแนนซี่ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดีไว้กับทางตำรวจอินโดนีเซียให้ดำเนินคดีทางอาญากับเจ้าหน้าที่ของทางการไทยที่เดินทางไปร่วมฟังการสอบปากคำพยานในประเทศอินโดนีเซีย ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับการให้ถุงสินบนพยาน และสร้างพยานหลักฐานเท็จ รวมถึงการไต่สวนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 
          นายสยามราช กล่าวอีกว่า สำหรับถุงสินบนถูกส่งไปก่อนที่ป.ป.ช.อินโดนีเซียจะเข้าสอบปากคำพยานปากสำคัญชาวอินโดนีเซียในคดีนี้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ตรวจการแผ่นดินไม่สามารถจะตรวจสอบการทำงานของคณะทำงานชุดนี้ได้ ขอให้เสนอเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากศาลอินโดนีเซียตัดสินว่ามีความผิดจริง แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าคดีดังกล่าวเพิ่งอยู่ในขั้นตอนแจ้งความกับตำรวจอินโดนีเซียให้เอาผิดป.ป.ช.ไทยและป.ป.ช.อินโดนีเซีย โดยทราบว่าหากทางการไทยไม่ดำเนินการส่งตัวไปทางอินโดนีเซียก็จะมีหนังสือขอมา ส่วนในประเทศไทย ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีอาญากับใคร อยู่ระหว่างการพิจารณาและเห็นว่าควรจะเริ่มกระบวนร้องขอความเป็นธรรมก่อน         
 

          ทั้งนี้นายสยามราช ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมทั้งในเรื่องถุงสินบน ลักษณะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม พยานหลักฐานต่างๆ ที่นำมายื่นให้กับผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยอ้างว่าเป็นเนื้อหาที่อยู่ในสำนวนคดี และระบุว่าไม่ทราบว่าเป็นกรณีเดียวกับถุงสินบนที่ก่อนหน้านี้นายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.โครงการปลูกปาล์ม ระบุหรือไม่
                

          ด้าน นายกมลธรรม วาสนาบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐว่าถูกต้อง ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ ไม่ได้มีหน้าที่ดำเนินคดีอาญา เมื่อรับคำร้องดังกล่าวแล้วก็จะนำไปวิเคราะห์ว่าพยานหลักฐานเกี่ยวข้องอย่างไร ผู้ตรวจฯมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือไม่ ซึ่งก็จะเร่งเสนอผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาต่อไป