ข่าว

"นายกฯ" พร้อมหามาตรการช่วยเหลือรถยนต์ดีเซล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯ" พกเครื่องวัด "PM2.5" ติดกระเป๋า เข้าทำเนียบฯ เผยพร้อมหามาตรการช่วยเหลือ "รถยนต์ดีเซล" วิ่งบนถนนไม่ได้ สั่งสำรวจรถทั่วไปติดตั้ง "เครื่องลดมลพิษ" หรือไม่

 

          เมื่อวันที่ 5 ก.พ.62 เวลา 13.35 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. แถลงภายหลังการประชุมครม. ถึงการแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพฯและปริมณฑลว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยมีทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ก็จะมีการปิดโรงงานในช่วงบางเวลา หากมีความจำเป็นจริงๆ เพราะจากการตรวจโรงงานนั้น จาก 100,000 โรงงาน พบว่ามีความเสี่ยงประมาณ 1,700 โรงงาน โดยสั่งการให้หยุดปรับปรุงประมาณ 600 โรงงาน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานที่ต้องใช้ความร้อนด้วยการต้มน้ำ 

 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าการฉีดน้ำเพื่อแก้ไขปัญหานั้น มาเป็นเรื่องตลก เพราะถือเป็นการช่วยเหลือของภาคประชาชนด้วยกัน อย่างน้อยก็สามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดใหญ่ได้ ขณะที่ประชาชนจะต้องไม่เผาวัชพืชในที่โล่ง ส่วนการสั่งปิดโรงเรียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เพราะเป็นห่วงสุขภาพเด็กเล็ก เนื่องจากค่าฝุ่นละออง PM2.5 จะส่งผลกระทบต่อเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ และอยากขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะเป็นการการแจกจ่ายหน้ากากป้องกัน เหมือนกับที่มีการแจกจ่ายกันในเวลานี้ ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันของคนไทย

 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เนื่องจากค่าฝุ่นละออง PM2.5 - PM10 ส่วนใหญ่แล้วมาจากการใช้รถยนต์บนท้องถนน ที่มีกว่า 50% ดังนั้นจึงต้องมาดูว่าจะแก้ไขปัญหาการใช้รถยนต์บนท้องถนนได้อย่างไร โดยตั้งเป้าว่าจะต้องลดลงให้เหลือ 35% ให้ได้ ดังนั้นต้องดูไปถึงตัวเครื่องยนต์ เช่น ไส้กรองอากาศ ระบบการใช้น้ำมัน ฯลฯ พร้อมหามาตรการช่วยเหลือเพราะเมื่อไม่สามารถใช้รถยนต์ดีเซลได้แล้ว ก็ต้องหามาตรการอื่นมาทดแทน เพราะถือว่ามีผลกระทบต่อโดยรวม ถ้าทุกคนร่วมมือกัน ก็จะแก้ปัญหาได้ แต่ไม่ควรให้ร้ายซึ่งกันและกัน เพราะปัญหาไม่ได้เพิ่งเกิดมาในปีนี้ แต่ปัญหาเหล่านี้เกิดกับทุกเมืองใหญ่ๆ 

 

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จากมาตรการที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่สามารถลดค่าฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานได้ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ใช้รถยนต์ดีเซลให้ตรวจสภาพเครื่องยนต์ ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการสำรวจว่ารถยนต์ที่ใช้ตามท้องถนน ได้ติดตั้งเครื่องลดมลพิษหรือไม่ โดยได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ไปหาวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว เพราะบางครั้งรถยนต์มีเครื่องลดมลพิษอยู่แล้ว แต่บางคนก็ถอดออก ส่วนการรณรงค์ให้ใช้รถพลังงานไฟฟ้านั้น รัฐบาลได้ลดภาษีของรถพลังงานไฟฟ้าลงแล้ว แต่แบตเตอรี่ที่ใช้นั้นมีราคาแพง จึงต้องมีการพัฒนาต่อไปเหมือนกับหลายประเทศในอาเซียนที่เริ่มใช้กันแล้ว ซึ่งถือเป็นการเตรียมการสู่อนาคต

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่แถลงข่าว นายกฯได้พกเครื่องวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ไว้ด้วย และคอยดูเป็นระยะ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังบอกด้วยว่า “ในห้องนี้วัดได้ประมาณ 30 แต่ให้ช่วยกันดู อย่าไปตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองและไม่ขอโทษใครทั้งนั้น เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาล  จะต้องแก้ไขปัญหาต่อไป ซึ่งวันนี้สถานการณ์ก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง “

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ