ข่าว

มติ กกต. ส่งศาลรธน.วินิจฉัยหุ้น 4 รมต.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"อิทธิพร" รับ กกต. มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหุ้นสัมปทานรัฐ ขัดรัฐธรรมนูญของ "ปนัดดา-ไพรินทร์-สุวิทย์-หมอธี" 3 รัฐมนตรี และ 1 อดีตรัฐมนตรี

 

             ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วันที่ 11 ม.ค. 2562 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยอมรับว่า กกต. ได้มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ มล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ,นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีถือหุ้นสัมปทานรัฐ เข้าข่ายกระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์ขัด รัฐธรรมนูญ มาตรา 186 ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (2) และมาตรา 170 วรรคสาม แต่ขอที่จะไม่เปิดเผยว่าเป็นการเห็นตามที่คณะกรรมการไต่สวนเสนอหรือไม่และกกต.มีมติเป็นเอกฉันท์หรือเสียงข้างมาก

 

             นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ในการพิจารณาไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นการพิจารณาไปตามเนื้อหาและรายละเอียดทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเมื่อมีประเด็นใหม่ที่ศาลรัฐธรรมนูญพึ่งได้ตัดสินไป กกต.ก็คำนึงถึง ศาลรัฐธรรมนูญ และเหตุผลในคำวินิจฉัยนั้นด้วย อันไหนเป็นกรณีเหมือนกัน เราก็ต้องมองไปตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มองเอาไว้ กรณีไหนคล้ายกันแต่ไม่ใช่โดยแท้ ก็จะถือว่ายังไม่เกี่ยวข้อง และอาจจะเป็นประเด็นที่เราเห็นว่า ยังไม่มีบรรทัดฐานชัดเจน ก็เป็นสิ่งที่ดีกว่า ที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด

             เมื่อถามย้ำว่า กรณีนี้ข้อเท็จจริงต่างจาก กรณีการถือครองหุ้นของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยไปแล้วว่าไม่ผิด และศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยชัดเจนใช่หรือไม่ ประธานกกต.กล่าวว่า คงสรุปอย่างนั้นไม่ได้ แต่ละกรณีมีหลายประเด็น บางประเด็นก็เกี่ยวพันหรือคล้ายกัน ส่วนระยะเวลาการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องตามหลักปฏิบัติโดยปกติ เมื่อผ่านเป็นมติ กกต.แล้ว ทางสำนักงาน กกต.ก็ดำเนินการในขั้นตอนต่อไปโดยเร็ว

             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีดังกล่าวนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบ โดยตามคำร้องระบุว่า มล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ว่ามีหุ้นของบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. กว่า 6,000 หุ้น แม้จะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แต่เหตุผลที่นายเรืองไกรอ้างในการยื่น กกต.ตรวจสอบย้อนหลังเพราะรัฐธรรมนูญ บัญญัติในลักษณะต้องห้ามของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไว้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติ จะต้องเว้นวรรคการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ตามมาตรา 160 ประกอบ 187

             ส่วนนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คำร้องระบุถือหุ้นในบริษัท GPSC หรือบริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) 90,000 หุ้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่รวมบริษัทลูกของ ปตท. ที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐ

             ขณะที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม และคู่สมรส ถือหุ้นที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐโดยถือหุ้นใน บมจ. GPSC 50,000 หุ้น บมจ. IRPC 240,000 หุ้น บมจ ปตท. 5,000 หุ้น บมจ. พีทีที โกลบอล เคมีคอล 60,000 หุ้น บมจ.ไทยออย 40,000หุ้น บมจ. กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมมท์ 300,000 หุ้น บมจ.บ้านปู พาวเวอร์ 10,000 หุ้น บมจ.อินทัช โฮลดิ้ง 26,000 หุ้น

             ส่วน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถือหุ้นสัมปทาน SCG ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 5,000 หุ้น

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ