'วันครู 2567' วันครูหยุดไหม เปิด ประวัติวันครู ที่หลายคนไม่เคยรู้

วันที่ 16 ม.ค. ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันครู” เพื่อเปิดโอกาสให้มีการ ประกอบพิธีระลึกถึงครูบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูกับประชาชน และจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่ง “วันครู 2567” ตรงกับวันอังคารที่ 16 ม.ค. 2567 ถือเป็นครั้งที่ 68 และนอกจากหลายคนจะอยากรู้ความเป็นมาของ “ประวัติวันครู” แล้ว ยังมักจะมีคำถามว่า “วันครูหยุดไหม” อยู่เป็นประจำทุกปี

วันครูหยุดไหม

สำหรับ “วันครู” โดยปกติแล้วไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่ในวันครู ครูในโรงเรียนจะเข้าร่วมการจัดกิจกรรมกับส่วนราชการ ทำให้โรงเรียนทั้งรัฐและเอกชน อาจจะประกาศหยุดเรียนเป็นกรณีพิเศษ แต่ก็จะเป็นเฉพาะในบางโรงเรียน ที่จะพิจารณาเท่านั้น

ประวัติวันครู

การประกาศ พ.ร.บ. ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อปี 2488 ได้ระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการ เรียกว่า คุรุสภา เป็นนิติบุคคล ให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา มีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครู ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู และมีการจัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัว ได้รับความช่วยเหลือตามสมควร

จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวปราศัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า

“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่า “วันครู” ควรมีสักวันหนึ่ง สำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้ แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับคนทั่วไป ถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือ ครูผู้เสียสละทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้ จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง”

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2499 คณะรัฐมนตรี จึงมีมติให้ วันที่ 16 ม.ค.ของทุกปี เป็น “วันครู” และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว ดังนั้น วันครู ของไทย จึงมีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2500 เพื่อให้บรรดาลูกศิษย์ได้แสดงความเคารพ สักการะ ต่อครูผู้มีพระคุณ

ดอกไม้วันครู

“กล้วยไม้” ถูกกำหนดให้เป็น ดอกไม้ประจำวันครู ด้วยว่าคุณลักษณะของดอกกล้วยไม้ มีลักษณะและความหมาย คล้ายคลึงกับความพยายามของครู เพราะกว่ากล้วยไม้แต่ละช่อ จะผลิดอกออกผลให้เราชื่นชมได้ ต้องใช้เวลานาน และต้องการ การดูแลเอาใจใส่ไม่น้อย เช่นเดียวกับครูแต่ละคน กว่าจะสั่งสอนเคี่ยวเข็ญศิษย์ ให้มีความเจริญงอกงาม ก้าวหน้าในชีวิตได้ ก็ต้องใช้เวลาอบรมสั่งสอน

นอกจากนี้ กล้วยไม้ ยังเป็นพืชที่อยู่ในที่สูงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่ร่วงโรยง่าย เปรียบเสมือน “ครู” ที่อยู่ทั่วแดนไทย ที่ต้องอดทนต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และอุทิศตนเพื่อการศึกษาของชาติ

ที่มา : วิกิพีเดีย, myhora.com, อุทยานหลวงราชพฤกษ์