Lifestyle

'เส้นผม -หนังศีรษะ' ต้องดูแลอย่างไร เมื่อต้องเผชิญมลภาวะและ ฝุ่น PM2.5

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีดูแลสุขภาพ 'เส้นผม-หนังศีรษะ' เมื่อต้องเผชิญกับมลภาวะและฝุ่น 'PM2.5'

ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับปัญหามลภาวะทางอากาศ และฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองต่อผิวหน้าแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับเส้นผมและหนังศีรษะ หากละเลยหรือปล่อยไว้นานยิ่งจะทวีความรุนแรงและส่งผลเสียในระยาวได้ ‘ธัญ’ (THANN) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะ แพทย์หญิง ธาริณี ก่อวิริยกมล แนะ “วิธีดูแลสุขภาพเส้นผมเมื่อต้องเผชิญกับมลภาวะและฝุ่น PM2.5

 

แพทย์หญิง ธาริณี ก่อวิริยกมล

 

แพทย์หญิงธาริณี เผยว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหามลภาวะจากฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ไม่เพียงส่งผลกระทบโดยตรงกับผิวหนังของเราแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะอีกด้วย เนื่องจากฝุ่น PM2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมคนเราถึง 40 เท่า (เส้นผมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 ไมครอน) สามารถนำพาสารที่เป็นอันตรายต่างๆ ติดตามมาด้วย อาทิ แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน เป็นต้น และสามารถเกาะตัวกับเส้นผมได้มากกว่าผิวหนังถึง 3 เท่า โดยเฉพาะผู้ที่มีผมหนาหรือยาวมักเกิดปัญหาผมเกิดความอ่อนแอ แห้งกรอบ หลุดร่วงง่าย รวมถึงการอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะ ทำให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง หนังศีรษะลอกเป็นขุยและเกิดสิว หากปล่อยไว้นานฝุ่นละอองเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้าเส้นผม และทำลายโครงสร้างโปรตีน ที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของรากผม ทำให้ผมแห้งและหลุดร่วงมากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วเส้นผมของคนเราจะหลุดร่วงเฉลี่ยประมาณวันละ 70 - 100 เส้น หากกว่านั้นก็อาจเป็นสัญญาณว่าหนังศีรษะเราเริ่มมีปัญหา

สภาพผมเสียที่มีสาเหตุจากมลภาวะและฝุ่น PM2.5 สามารถแบ่งระดับความรุนแรงได้ตามปริมาณความเข้มข้นและระยะเวลาที่เส้นผมเราสัมผัสกับมลภาวะและฝุ่น PM2.5 ดังนี้

 

  • สัมผัสในปริมาณเล็กน้อยและระยะเวลาไม่นาน มลภาวะและฝุ่น PM2.5 จะเกาะเคลือบภายนอกบริเวณเส้นผม ทำให้ผมเหนียว และแข็งกระด้าง
  • สัมผัสในปริมาณมากและระยะเวลาไม่นาน มลภาวะและฝุ่น PM2.5 จะเข้าไปเกาะที่หนังศีรษะและซึมเข้าหนังศีรษะ ทำให้เริ่มมีอาการระคายเคือง คัน และหนังศีรษะแห้ง
  • สัมผัสปริมาณมากและระยะเวลานานติดต่อกัน มลภาวะและฝุ่น PM2.5 จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของหนังศีรษะ เกิดเป็นผื่นแดง หนังศีรษะลอกเป็นขุย และทำให้ผมหลุดร่วงตามมา

 

'เส้นผม -หนังศีรษะ' ต้องดูแลอย่างไร เมื่อต้องเผชิญมลภาวะและ ฝุ่น PM2.5

 

เราสามารถปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะได้ด้วยการสวมหมวก หรือผ้าคลุมผม เพื่อลดการสัมผัสกับมลภาวะและฝุ่น PM2.5 โดยตรง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางกลับเข้าที่พัก เพื่อเป็นการลดการสะสมและลดผลกระทบของมลภาวะและฝุ่น PM2.5 ที่มีต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ โดยปกติแล้วควรสระผมสัปดาห์ละ 3 ครั้งก็เพียงพอ แต่หากต้องเผชิญกับมลภาวะและฝุ่น PM2.5 ควรสระผมทุกวัน

 

'เส้นผม -หนังศีรษะ' ต้องดูแลอย่างไร เมื่อต้องเผชิญมลภาวะและ ฝุ่น PM2.5

 

ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมหรือแชมพู ควรพิจารณาจากคุณสมบัติในการขจัดคราบไขมัน สิ่งสกปรกตกค้าง รวมถึงสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมออกไปได้มากที่สุดโดยไม่ทำให้เส้นผมหรือหนังศีรษะแห้งคัน ในปัจจุบันมีแชมพูสระผมหลากหลายประเภท ซึ่งการเลือกใช้ควรพิจารณาว่าแชมพูชนิดไหนเหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของเรา

 

'เส้นผม -หนังศีรษะ' ต้องดูแลอย่างไร เมื่อต้องเผชิญมลภาวะและ ฝุ่น PM2.5

 

นอกจากนี้การทำแฮร์ทรีทเม้นท์ ก็มีส่วนช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมามีสุขภาพดี การใช้ครีมนวดผม, ครีมหมักผม หรือเซรั่มบำรุงเส้นผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันและสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการบำรุงและปกป้องสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ 

 

การมีผมสวยสุขภาพดีย่อมเป็นที่ดึงดูด และส่งผลดีต่อบุคลิกภาพ ทำให้เกิดความมั่นใจในตัวเอง ควรหลีกเลี่ยงการเป่าผมด้วยความร้อนจัด หลีกเลี่ยงการหนีบผมหรือไดร์ยืดผมในขณะที่เส้นผมยังเปียกอยู่ เพราะจะทำให้เส้นผมขาดหักได้ง่ายส่วนการหวีผม ควรใช้แปรงที่มีตุ่มหรือหวีซี่ใหญ่ โดยไม่ทำให้เส้นผมขาดจากการเกี่ยวของหวีหรือแปรงได้, ควรใช้น้ำอุ่นในการสระผม โดยให้ปลายนิ้วนวดคลึงหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และไม่ควรเกาหนังศีรษะอย่างรุนแรงขณะสระผม

 

นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ, วิตามินบี, สังกะสี และเหล็ก อาทิ เนื้อปลา หอยนางรม ไข่ นมหรือผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วและธัญพืชชนิดต่างๆ ผักใบสีเขียวเข้ม ส้ม และแครอท ฯลฯ ก็ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีได้อีกด้วย

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ