Lifestyle

6 เคล็ดลับ 'ชะลอวัย' สาวๆ ฟังไว้ ทำได้แบบนี้แก่ช้าแน่นอน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้เชี่ยวชาญแนะ 6 เคล็ดลับ 'ชะลอวัย' สาวๆ ฟังไว้ ถ้าทำได้ตามที่แนะ รับรองแก่ช้าแน่นอน ผู้เชี่ยวชาญแนะ 6 เคล็ดลับ 'ชะลอวัย' สาวๆ ฟังไว้ ถ้าทำได้ตามที่แนะ รับรองแก่ช้าแน่นอน

สำหรับเคล็ดลับในการชะลอวัย “หมอโก้” นพ.ธีระ ภิรมย์สวัสดิ์ Medtopia Anti-aging Center เผยว่า มีหลักตายตัว 6 ข้อ ถ้า

ทำได้คุณแก่ช้าแน่นอน ประกอบด้วย

 

1. อนุมูลอิสระต้องไม่เยอะเกินไป

อนูมูลอิสระ คือ สารที่ร่างกายได้รับสารพิษต่างๆ เข้าไป ทำให้เกิดตัวอนุมูลอิสระในโมเลกุลจะขาดตัวประจุลบไปทำให้ไม่เสถียร ซึ่งอนุมูลอิสระจะถูกกระตุ้นจากอะไรก็ได้ แล้ววิ่งไปหาประจุลบจากเซลล์ต่างๆ แล้วแย่งมาเพื่อให้ตัวเองเสถียร จากนั้นทำลายเซลล์ตัวนั้น และเซลล์นั้นก็จะเกิดอนุมูลอิสระเป็นลูกโซ่ไปเรื่อยๆ ทำให้เซลล์เสื่อม ตายเร็วกว่าปกติ เท่ากับเราก็จะแก่กว่าวัย เพราะอายุเซลล์ของเราอาจจะมากกว่าอายุจริง

 

อนูมูลอิสระยังเกิดจากการบริโภคเยอะๆ ในเซลล์เราทุกเซลล์จะมี Mitochondria เป็นโรงไฟฟ้าประจำเซลล์ที่จะสร้างพลังงานให้เรามีแรง มันก็ต้องเอาน้ำตาลไปใช้ทำให้เกิดของเสียไปรอบๆ ซึ่งของเสียนั้นจะไปทำลาย ทำให้ Mitochondria ตาย ทำให้ยิ่งแก่เรายิ่งไม่มีแรงซึ่งเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเสื่อมกว่าวัย แก่กว่าวัย

 

หลักการในการแก้ไขอนมูลอิสระ คือ การคุมพลังงานในการกินในแต่ละวัน ไม่ใช่การลดอาหาร แต่เป็นการกินให้น้อยลงแต่ได้สารอาหารครบถ้วน จำกัดไม่ให้มีแคลเลอรี่เยอะเกินไป ผู้หญิงประมาณ 1,200 กิโลแคลต่อวัน ผู้ชาย 1,400-1,500 ต่อวัน ถ้าเราคุมอาหารได้ดีไม่กินเยอะเกินไป ของเสียในร่างกายก็เกิดน้อย Mitochondria ในร่างกายก็จะไม่ตาย 

 

 

2.น้ำตาลคือยาพิษอย่ากินหวานเกินไป

 

ตอนนี้ทุกคนเริ่มตระหนักแล้วว่าน้ำตาลสร้างผลเสียแก่ร่างกายเยอะ เพราะเมื่อเข้าไปสู่ร่างกาย จะไปสัมผัสกับโปรตีนทำให้โปรตีนในร่างกายเสียโครงสร้างไป ทำให้เกิดตัว AGE เป็นตัวที่จะไปทำลายโปรตีนต่างๆ ในร่างกาย ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพลดลง

 

น้ำตาลทุกชนิดอาจจะมีประโยชน์แต่ก็มีโทษด้วย โดยเฉพาะน้ำตาลผลไม้ เป็นน้ำตาลที่ควรเลี่ยงมากที่สุด เมื่ออายุมากขึ้นควรกินผักเยอะขึ้น แต่ผลไม้ลดลง ผลไม้ก็ต้องกินทั้งลูก กินทั้งกาก รวมทั้งน้ำหวานต่างๆ ต้องลดลงด้วย น้ำตาลมีผลต่อการชะลอวัยด้วยถ้าเลี่ยงได้พยายามฝึกตั้งแต่เด็ก เพราะจะส่งผลระยะยาว

 

3. การอักเสบเรื้อรังเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังทุกชนิด

 

ภาวะการอักเสบเรื้อรัง การอักเสบเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย เช่น หากเกิดป่วย ร่างกายต้องเกิดการอักเสบเพื่อไปฆ่าเชื้อโรค เพราะฉะนั้นร่างกายต้องเกิดการอักเสบอยู่แล้ว แต่จะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งการอักเสบเหล่านี้จะเป็นค่าสารต่างๆ ที่ล่องลอยอยู่ในเลือด ไม่มีอาการ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่มีไข้ ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น และเราจะไม่รู้เลยหากไม่เจาะเลือด

 

ถ้าการอักเสบเกิดขึ้นตลอดเวลา เหนือกว่าค่าปกติ จะทำให้เซลล์ในร่างกายเราเกิดการอักเสบ เสื่อมเร็วขึ้น ตายเร็วขึ้น การอักเสบที่เรื้อรังที่อยู่ในร่างกายเราเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังในอนาคต อาทิ โรคความดันสูง โรคไขมันสูง โรคเบาหวานหัวใจ โรคสมอง มะเร็ง โรคไขข้อ ฯลฯ มักมาจากที่ร่างกายมีการอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานานแล้วไม่ได้รับการแก้ไข

คนที่มีไขมันในร่างกายเยอะ โดยเฉพาะไขมันไม่ดีจะสร้างสารอักเสบออกมาในร่างกายเยอะขึ้น ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันเลวเยอะๆ กินอาหารที่มีกากใยเยอะๆ เพื่อทำให้ไม่อ้วนเกินไป ไม่กินมากเกินไป หลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์ เหล่านี้จะทำให้การอักเสบลดลง นอกจากนี้ยังมีวิธีของแพทย์ อาทิ การให้วิตามินขนาดสูงในปริมาณที่เหมาะสม เป็นต้น

 

4. สารพิษในร่างกาย พยายามลดการเอาเข้า เพิ่มการเอาออก

 

สารพิษในร่างกายทำให้ร่างกายเสื่อม ซึ่งสารพิษจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา ที่เรากินและหายใจเข้าไป นอกจากนี้ยังมีสารพิษที่อยู่ในอาหาร หรือภาชนะต่างๆ ที่เราใช้ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก ยาฆ่าแมลงที่ปนอยู่ในอาหาร หรือสารพิษจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำลายร่างกายทั้งสิ้น

 

การป้องกันไม่ให้สารพิษเข้าร่างกาย ก่อนอื่นคือนำเข้าให้น้อย แต่ถ้าเข้าไปแล้วพยายามให้ร่างกายขับออก (ดีท็อกซ์) ด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ

 

  • ดื่มน้ำเยอะๆ และควรเป็นน้ำแร่ เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้เพื่อการกำจัดสารพิษออก
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เช่น การออกกำลังกายมีการเคลื่อไหวเยอะๆ สารพิษจะถูกขับออกทางเหงื่อ
  • การสวนล้างลำไส้
  • การให้วิตามินที่ แร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นที่ตับจะใช้กำจัดสารพิษ เราก็ต้องกินให้เพียงพอ
  • การทำ Crelation Therapy คือ การให้เกลือผสมสารบางชนิดที่มีความสามารถในการจับโลหะหนักแล้วเอาไปทิ้งทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายเราสะอาดมากขึ้น
  • การลดความเครียด หรือการนอน ก็เป็นการดีท็อกซ์แบบหนึ่ง

 

จะเห็นว่าหลักการการชะลอวัย คือการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วย ถ้าใครสงสัยว่าตัวเองมีอาการประหลาดๆ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ หรือมีอาการอะไรที่หาคำตอบไม่เจอ นั่นอาจจะเป็นเพราะคุณมีสารพิษในร่างกายเยอะ แนะนำให้ลองไปพบแพทย์

 

5. ภาวะกรดร่างกายที่สูงเกินไป ทำให้ร่างกายเสี่ยงมากขึ้น

 

ภาวะกรดในร่างกายที่สูงเกินไป สภาวะกรดในร่างกายหมายถึง สภาวะแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่รอบเซลล์ของเรามีความเป็นกรดมากขึ้น ซึ่งจะส่งสัญญาณไปที่ไตเพื่อทำการแก้ไข ส่งผลให้ไตทำงานหนักขึ้นและเกิดของเสียขึ้นที่ไต ทำให้ไตเสื่อมเร็ว ทำให้เกิดภาวะไตเสื่อมเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง

 

ผลที่ตามมาจากการที่ไตทำงานเพื่อไปพยายามลดความเป็นกรดในร่างกายลง จะเกิดภาวะที่เรียกว่าแคลเซียมในเลือดสูงขึ้นจากการละลายแคลเซียมจากกระดูก ดังนั้นคนที่มีภาวะเป็นกรดเยอะๆ กระดูกจะบางเร็ว ซึ่งสภาวะความเป็นกรดนั้นเกิดจากอาหารที่กินเข้าไป

 

อาหารประเภทที่ทำให้เกิดกรดในร่างกายสูง คือ น้ำตาล เบเกอรี่ต่างๆ ของหวานทุกชนิด น้ำอัดลม นอกจากนี้การกินเนื้อสัตว์มากเกินไปมีฤทธิ์ทำให้เกิดกรดในร่างกายสูงขึ้นได้ ขณะที่อาหารที่ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเป็นกรด คือ พวกผัก ผลไม้

 

ผลเสียจากภาวะร่างกายเป็นกรด

  1. กระดูกบาง
  2. ร่างกายมีความเสี่ยงการเกิดมะเร็งสูง
  3. แคลเซี่ยมที่ออกมามากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด การเกิดเส้นเลือดแดงตีบแข็งมากขึ้น เสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคความดัน โรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น

ตัวหนึ่งที่แนะนำให้คนไข้เพื่อป้องกันไม่ไห้ไตเสื่อมเร็ว ไม่ให้เกิดภาวะกรดในร่างกายเยอะ คือ โซดามิ้นท์ จะช่วยให้เลือดไม่เป็นกรดมากเกินไป สามารถกินได้ตลอดเวลา ทุกเพศ ทุกวัย

 

6.ความเครียด

 

ความเครียด หลักๆ แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ ความเครียดทางกาย และความเครียดทางใจ

 

ความเครียดทางใจ คือสิ่งที่เรารู้สึก เครียดงาน เครียดเงิน เครียดคน อันนี้เรารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าเราเครียดหรือไม่ บางคนบอกว่าไม่เครียดเลย แต่เกิดความเครียดทางกาย คือเกิดความไม่สมดุลของระบบต่างๆ ในร่างกาย มีสารอาหารพิษในร่างกายเยอะ อดอาหารก็เครียด กินอาหารมากเกินไปก็เครียด ไม่ออกกำลังกายก็เครียด ออกกำลังหนักเกินไปแล้วไม่ได้ป้องกันก็เครียด จะเห็นว่าความเครียดทางกายเป็นสิ่งที่เราไม่รู้สึก แต่ร่างกายเรารับรู้ ซึ่งความเครียดพวกนี้นานๆไปจะกลายเป็นความไม่สมดุลในร่างกาย และเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้เยอะ

 

การกำจัดความเครียด

 

  • ความเครียดทางใจ - คือ FIGHT OR FLIGHT FIGHT แรกคือการต่อสู้กับมัน แต่ถ้าสู้ไม่ได้ก็จะเป็น FLIGHT คือหนีจากความเครียดนั้น หลักการมีแค่นี้คือจะสู้หรือจะถอย
  • ความเครียดทางกาย เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข คุณมีน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปไหม เดี๋ยวน้ำตาลขึ้น เดี๋ยวลง กินอาหารไม่ถูกต้อง กินอาหารที่สร้างกรดในร่างกายเยอะ กินอาหารที่มีสารพิษเยอะ กินยาเยอะเกินไปก็เป็นความเครียด ถ้าสงสัยว่าร่างกายเครียดแค่ไหน ควรพบแพทย์

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ