รู้จัก มิเตอร์ TOU แตกต่างจากมิเตอร์ทั่วไปอย่างไร อันไหนประหยัดไฟกว่ากัน ?

เข้าสู่หน้าร้อนแบบเต็มตัว หลายพื้นที่อุณหภูมิสุดพีค สูงเกิน 40 องศาเซลเซียลไปแล้ว หลายคนไม่ไหวต้องพึ่งพาพัดลม หรือ เครื่องปรับอากาศ เปิดให้เย็นฉ่ำกันทั้งวันทั้งคืน แต่ที่ตามมาด้วย คือ ค่าไฟฟ้า ที่แพงขึ้นตามไปด้วย หลายคนหาวิธีที่ช่วยให้ประหยัดค่าไฟ มองหาอุปกรณ์ที่ช่วยลดค่าไฟ "มิเตอร์" ไฟฟ้า TOU ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนสนใจ และสงสัยว่าต่างจาก มิเตอร์ทั่วไปอย่างไร

"มิเตอร์ไฟฟ้า" แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

• มิเตอร์ทั่วไป
• มิเตอร์ TOU

"มิเตอร์" ทั่วไป

"มิเตอร์" ทั่วไป จะคิดค่าไฟแบบอัตราก้าวหน้า นั่นคือ หากมีการใช้ไฟเยอะ ค่าไฟก็จะมากขึ้นตามปริมาณการใช้งาน

TOU คืออะไร ย่อมาจากอะไร?

TOU ย่อมาจาก Time of Use Tariff คือ อัตราค่าไฟฟ้าที่คิดตามช่วงเวลาการใช้งานของผู้ใช้ไฟฟ้า MEA จะแบ่งการคิดค่าไฟฟ้าตามอัตราที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้า

TOU ดีอย่างไร?

อัตราค่าไฟฟ้าแบบ TOU ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้เพราะ อัตราปกติที่มีการคิดค่าไฟฟ้าเป็นแบบ Progressive rate (อัตราก้าวหน้า) ค่าไฟฟ้า ขึ้นกับหน่วยการใช้ไฟฟ้า ยิ่งใช้ไฟฟ้ามากก็ยิ่งเสียเงินค่าไฟฟ้ามากทำให้รู้สึกว่าค่าไฟฟ้าสูงเกินไป แต่การคิดอัตราค่าไฟฟ้าแบบ TOU จะเป็นการแบ่งการคิดค่าไฟฟ้าตามอัตราที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟฟ้า ดังต่อไปนี้

• ช่วงเวลา On Peak คือ ช่วงเวลาที่ระบบมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ตั้งแต่เวลา 09.00 - 22.00 น. ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์
• ช่วงเวลา Off Peak  คือ ช่วงเวลาที่ระบบมีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ ตั้งแต่เวลา 22.00 - 09.00 น. ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และช่วงเวลา 00.00 - 24.00 น. วันเสาร์ - วันอาทิตย์ วันแรงงานแห่งชาติ วันหยุดราชการตามปกติ และวันหยุดราชการตามมติคณะรัฐมนตรี(ไม่รวมวันพีชบงคลและวันหยุดชดเชย)

ทั้งนี้ การไฟฟ้านครหลวงแนะ หากบ้านคุณมีพฤติกรรมใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางคืนมากกว่ากลางวัน หรือใช้ไฟฟ้ามากในช่วงวันหยุด ลองเปลี่ยนมาใช้ "มิเตอร์ TOU" (Time of use) เพื่อ ลดค่าไฟฟ้า เนื่องจาก "มิเตอร์ TOU" คิดค่าไฟฟ้าในช่วง Off Peak (เวลา 22:00 - 09:00 น.ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และวันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ตลอด 24 ชั่วโมง) มีอัตราค่าไฟฟ้าถูกกว่าช่วง On Peak (เวลา 09.00 - 22.00 น.ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์)

ข้อมูลอ้างอิงจาก : การไฟฟ้านครหลวง