เปิดวาร์ป 'ซานต้า - ชมพู - มิ้ม' นางร้าย ที่หน้าตบที่สุด แต่ละคนแซ่บไม่ธรรมดา

เริ่มจาก ซานต้า ศศรส  สุวัฒนาพร ทีมควีนมาสเตอร์ โม อมีนา  สาวสวยหน้าตาดี ที่ฉายแววความสวยตั้งแต่อีพีแรก พร้อมกวาดคำชื่นชมจากกรรมการ เรื่องการแสดงที่เข้าถึงบทบาท ด้วยรูปร่างหน้าตาที่พร้อมเฉิดฉาย เสน่ห์ที่เปี่ยมล้น ทำให้สาวซานต้า ตกแฟนคลับรายการนี้ไปได้ไม่น้อย ซานต้า เกิดวันที่ 5 มีนาคม 2540 กำลังศึกษาปริญญาตรี บริหารทั่วไป มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ผลงานที่ผ่านมาของสาวซานต้า เรียกว่าหลายคนต้องคุ้นหน้าคุ้นตา หรือเห็นเธอคนนี้จากโฆษณา และ หน้าจอทีวีในการแสดงจากเรื่องพระสุธนม-โนราห์ ปี 2563 จากบท กินรีมณีกาญจน์ ธิดาองคที่ 5, ละคร ฟ้ามีตา ตอน แค่เมตตารับบท นิด นางเอกผู้น่าสงสาร และ With love the series รักต่อไม่รอแล้วนะ บท พาฝัน มาแล้ว และเพื่อสานต่ออาชีพการเป็นนักแสดง เธอจึงเลือกที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับการเป็นนักแสดงมืออาชีพ ในรายการ นางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand)  และตั้งใจให้ใครหลายคนเห็นว่า ถึงแม้ใบหน้าเธอจะหวาน แต่เธอก็สามารถตีบทแตกในบทนางร้ายในหลายรูปแบบได้ และในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สาวซานต้าทำให้ใครหลายคนได้เห็นว่า เธอมีความสามารถที่เหนือชั้น เพราะสามารถก้าวเข้ามาเป็น 3 คนสุดท้ายในรายการได้ด้วยความสามารถของเธออย่างแท้จริง พร้อมการเรียนรู้ทักษะความสามารถของควีนมาสเตอร์โม อมีนา มาแบบเต็มๆ ใครที่อยากรู้จักซานต้าสามารถเข้าไปติดตามไลฟ์สไตล์ได้ที่ ไอจี @santa_su

ต่อด้วย สาวสวยมากความสามารถ ชมพู อทิตา พยัคฆ์ จากทีมควีนมาสเตอร์ เบนซ์ ปุณยาพรเรียกว่าสำหรับสาวสวยคนนี้ มีกระแสต่อเนื่องตั้งแต่รับสมัครเข้ารายการ จนทำเอาแฮชแท็ก #ชมพูอทิตา ติดเทรนด์ X อยู่หลายครั้ง เพราะฉายแววออร่าการเป็นนักแสดงตั้งแต่เริ่มต้น และค่อย ๆ พัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด โดยสาวชมพู เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2538 ปัจจุบันอายุ 28 ปี เป็นชาวจังหวัดนนทบุรี จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาการโฆษณาและการสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ชมพูเริ่มเป็นที่รู้จักจากการเข้าประกวดเวทีนางงามชื่อดัง มิสแกรนด์เชียงใหม่ 2022 ก่อนจะได้เป็นตัวแทน เข้าสู่เวทีใหญ่ Miss Grand Thailand 2022 โดยระหว่างประกวดนั้น ชมพูได้มีกระแสคู่จิ้น กับ ทีน่า รองอันดับ 2 มิสแกรนด์ไทยแลนด์  ทำให้ชื่อเสียงในโลกออนไลน์เธอดังมากขึ้น และด้วยการต่อยอดความฝัน และพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เธอจึงเลือกที่จะลงรับสมัคร เพื่ออยากเป็นนางร้ายแบบมืออาชีพ ในฐานะนักแสดง

ปัจจุบันชมพู  อทิตา พยัคฆ์ คือ 3 คนสุดท้าย ในรายการ นางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand) ที่สามารถครองใจคณะกรรมการจนผ่านเข้ารอบมาได้ แถมยิ่งเป็นที่น่าจับตามองขึ้นไปอีก เมื่อเธอถูกแฟนคลับรายการอวยยศว่า สมเป็นลูกของควีนมาสเตอร์เบนซ์ ปุณยาพร เพราะนอกจากความสวยที่ละม้ายคล้ายกัน ด้านการแสดงก็ถอดแบบกันมาเต็มๆ   สุดท้ายต้องจับตาดูว่า บนเส้นทางการเป็นนักแสดงของเธอนั้นจะถึงเส้นชัยจนคว้ารางวัลชนะเลิศได้หรือไม่ ใครที่อยากรู้จักสาวสวยคนนี้มากขึ้นสามารถตามเข้าไปส่องได้ที่ไอจี @chompu_athita

ปิดท้ายนางร้ายตัวเต็งที่หลายคนเชียร์เธอคนนี้ไม่น้อยเหมือนกัน สำหรับ มิ้ม รัตนวดี วงศ์ทอง จากทีมควีนมาสเตอร์ แก้มบุ๋ม ปรียาดา บอกเลยว่าดีกรีเธอคนนี้ เล็กพริกขี้หนู สุดแซ่บตัวจริง เพราะถึงตัวจะเล็ก แต่พลังทางการแสดงไม่เล็ก ทั้งสายตา อินเนอร์ เธอส่งพลังมาเต็ม  จนชนะใจมาหลายโจทย์การแข่งขัน สาวมิ้ม เกิดวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2547 ที่กรุงเทพมหานคร ด้านการศึกษา จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจาก โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสุวินทวงศ์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจบการศึกษาจาก โรงเรียน นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา 2 และกำลังศึกษาปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ผลงานที่แจ้งเกิดและเป็นที่รู้จักคือภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด รับบทเป็น แย้ม โดยก่อนหน้านั้น มิ้ม รัตนวดี เข้าสู่วงการบันเทิงจากการเข้าร่วมประกวดมิสทีนไทยแลนด์ 2016 และได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 จากนั้นเริ่มมีผลงานการแสดงละครโทรทัศน์ เธอได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการและได้เข้ามาพิสูจน์ความสามารถแบบไม่จำกัดอยู่แค่นางเอก ในด้านบทนางร้ายในรายการ นางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand) และด้วยความสวย และพลังอินเนอร์ที่ร้ายสายแบ๊ว ถอดควีนมาสเตอร์ แก้มบุ๋ม ปรียาดา มาแบบเต็มๆ พร้อมกับความน่ารัก และโดดเด่นทางการแสดงที่โดนใจคณะกรรมการ จนทำให้เธอเป็นหนึ่งในสามคนสุดท้ายที่น่าจับตา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีพร้อมทุกด้าน พร้อมที่จะโลดแล่นในวงการบันเทิงได้อีกยาวไกลเลยทีเดียว สามารถติดตามความสวยและไลฟ์สไตล์ของมิ้มได้ที่ ไอจี @momimjung

มาร่วมลุ้นกันว่า โฉมหน้าว่าที่สุดยอดนางร้ายไทยแลนด์คนแรกของประเทศไทย ใครกันจะเป็นตัวจริง แฟนๆสามารถติดตามได้ในรายการ นางร้าย Thailand (Devil Angel Thailand) รอบไฟนอล ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทางช่อง 8