ย้อนรอยชีวิต 'แวร์ โซว' เคยขายคอนโด ปลดหนี้ 13 ล้าน อยู่ห้องเช่ากับลูกสาว

ย้อนรอยชีวิต นักแสดงแม่เลี้ยงเดี่ยว "แวร์ โซว" ชีวิตนี้เจอแต่อะไรหนักๆ หลังล่าสุดโพสต์ตัดพ้อ เงินหมดเกลี้ยง อดตาย ที่จะซุกหัวนอนไม่มี จะทำมาหากินอะไรดี คิดไม่ออก จะไปทำงานเซเว่น ไปเป็นเด็กปั๊ม ซึ่งเธอเปิดใจว่า ทำไรก็เจ๊ง โดนโกง โรคซึมเศร้าก็กลับมา รู้สึกไร้ค่า อยากตาย

หากย้อนกลับไป เมื่อช่วงปี 2562 "แวร์ โซว" เคยประกาศขายคอนโด หวังปลดหนี้ 13 ล้าน และย้ายไปอยู่ห้องเช่ากับ "น้องคนดี" ลูกสาว โดยเธอเปิดใจเล่าในตอนนั้นว่า "ถามว่ามีหนี้เท่าไหร่ จริงๆ มีตั้งแต่ 13 ปีที่แล้ว มีอยู่ 13 ล้าน 13 ปีที่ผ่านมาใช้ไปแล้ว 10 ล้าน ตอนนี้เหลือ 3 ล้าน คือซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ดอกเบี้ยแบงก์ เบ็ดเสร็จต้นแค่ 7 ล้าน ที่เหลือเป็นดอกทั้งนั้น และตอนนี้เหลือ 3 ล้านเป็นแค่ต้นเฉยๆ ไม่รวมดอก

ตอนนี้ขายคอนโดได้แล้วค่ะ หมดหนี้แล้ว ตอนนี้ใช้หนี้หมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว เริ่มต้นใหม่จากศูนย์เลย สบายใจขึ้นมากตอนนี้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องหามาจ่ายเขาทุกเดือนแล้ว ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจแบบนี้ด้วย งานจ้างเราก็มีน้อย เงินที่เข้ามาก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง ดังนั้นพอเราหมดหนี้แล้วมันก็ทำให้เราสบายใจมากๆ เลย

ถามว่าเสียใจไหมที่ไม่มีอะไรเหลือแล้ว คำตอบคือ ไม่เลยค่ะ เพราะการที่เราไม่มีหนี้ ไม่มีอะไรผูกมัดเรา มันประเสริฐที่สุดเลย บ้านไม่มี รถไม่มี คอนโดก็ขาย ส่วนเงินในบัญชีก็มีร่อยหรอ แต่เราไม่เสียดาย เพราะของพวกนี้มันสร้างทำใหม่สร้างใหม่ได้ ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตเราก็ประหยัดของเราเป็นปกติอยู่แล้ว เราไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีน้อยจ่ายหนัก ไลฟ์สไตล์เรากินข้าวแกง 30-40 บาท ก็แฮปปี้แล้วค่ะ

งานช่วงนี้ก็มีติดต่อเข้ามาอยู่เรื่อยๆ แต่บางครั้งถ้าคิวมันไม่ได้จริงๆ หรือบทมันไม่ลงตัว เราก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังรับงานอยู่เรื่อยๆ ค่ะ

อาการป่วยโรคซึมเศร้า หลายคนอาจจะคิดว่าคนที่ป่วยโรคซึมเศร้าส่วนใหญ่เป็นเพราะมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ว่าจริงๆ แล้วเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่มันเป็นเรื่องที่เราถูกเอาเปรียบมากกว่า อย่างตัวของเราเอง ช่วงที่ผ่านมาเราโดนโทรศัพท์โรคจิตติดต่อเข้ามาเยอะมาก โทรมาพูดจาไม่ดีใส่เราในช่วงที่เรามีปัญหา เราก็จะรู้สึกแบบทำไมชีวิตเราต้องมาโดนอะไรแบบนี้ ตอนนั้นคือมันไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่ว่าตอนนี้หายแล้วค่ะ

ถ้าให้นับเป็นช่วงเวลาที่ป่วย เอ่อ...เราป่วยโรคซึมเศร้าแบบไม่รู้ตัวอยู่ 5 ปี และก็มาเริ่มกินยารักษาจริงจังอยู่ประมาณ 3-4 ปี รวมๆ แล้วก็คือ 9 ปี เห็นจะได้ ซึ่งตอนนี้คุณหมอบอกว่าอาการโดยรวมเราดีขึ้น สงบมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ให้หยุดกินยานะคะ เพราะการทำงานการใช้ชีวิตของเรายังต้องเจอกับผู้คน แต่ก็ลดระยะเวลาในพบหมอลง เป็น 2 เดือน ต่อ 1 ครั้ง"