'เซ้นต์' ทุ่มเงินส่วนตัวครึ่งล้าน ทำเพลงตอบแทนแฟนคลับ

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก  -   เป็นหนุ่มฮอตที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ "เซ้นต์" ศุภพงษ์ ล่าสุดกำลังจะปล่อยซิงเกิ้ลแรกในชีวิตของตัวเองกับเพลงที่มีชื่อว่า "ถูกใจคนนี้" โดยหนุ่มเซ้นต์ได้ถ่ายทำมิวสิควีดีโอไปเมื่อวันก่อน พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์กับ "บันเทิง คมชัดลึก"  ถึงที่มาที่ไปของเพลงนี้
 

 

    เพลง "ถูกใจคนนี้" เริ่มมาจากอะไร
    "สำหรับเพลงนี้เกิดจากการที่ผมเองและพี่เชน (ผู้จัดการส่วนตัว) เราอยากที่ทำเพลงมาตั้งแต่แรก เพราะเราได้เห็นผลงานของพี่ๆ ไอดอลหลายๆ คนที่เขาทำกันมา โดยตอนแรกเราอาจจะติดเรื่องความสามารถของเรา ที่รู้สึกว่าเรายังไม่พร้อม มาถึงตอนนี้เรารู้สึกว่าเราพร้อมแล้ว ในเรื่องของความสามารถเราอาจจะยังไม่เก่งเหมือนพี่ๆ ศิลปินหลายๆ คน แต่เหมือนกับว่าเรามีประสบการณ์มากขึ้นจากการที่เราไปแฟนมีทติ้ง ไปออกงานอีเวนท์ แล้วเราได้ร้องเพลง ทำให้รู้สึกว่าเราพอที่จะทำซิงเกิ้ลได้แล้ว เราพร้อมมากขึ้นแล้ว และเรื่องทุนเราก็เก็บหอมรอมริบมาตั้งแต่ทำงานก็พอจะทำได้แล้ว คือการทำงานเพลงนี้ เป็นการหุ้นกันของผมกับพี่เชน  (ผู้จัดการส่วนตัว) กับทางสังกัดที่มารวมกันเพื่อทำซิงเกิ้ลนี้"

 

    ลงทุนใช้เงินตัวเองในการทำ
    "ใช่ (ลงทุนไปเท่าไหร่) ก็เรียกได้ว่าเยอะมาก ลงทุนเงินส่วนตัวกันเองกว่าครึ่งล้าน จริงๆ น่าจะมากกว่านั้นด้วย (หัวเราะ)"

 

 

 

 

 

 

 

    ทำไมถึงยอมลงทุนด้วยตัวเองขนาดนี้ 
    "การทำตรงนี้มันเกิดจากความชอบของเรา และเราเองก็มีแอดติจูดในการทำงานของเราอยู่แล้วว่าอยากทำความสุข ที่เหมือนกับว่าเราทำงาน เราสนุกและมีความสุขกับงาน และเราก็มอบความสุขให้กับทุกคนที่รักเราด้วย ที่ได้เห็นผลงานของเรา เช่นเดียวกันเพ ลงนี้เหมือนเป็นของขวัญที่เราทำงานมาสักประมาณปีกว่าแล้ว เราก็อยากมีของขวัญเพื่อตอบแทนแฟนคลับทุกคน เราเลยเลือกที่จะลงทุนทำผลงานนี้ออกมาเพื่อตอบแทนแฟนคลับ เพราะเพลงนี้ความหมายก็ตรงกับชื่อเพลง "ถูกใจคนนี้" คือเราชอบใคร เรารักใคร เราก็มอบสิ่งนี้ให้ เหมือนเป็นความรักที่ผมมอบให้กับแฟนคลับทุกคน ถ้าแฟนคลับ หรือใครที่ฟังเพลงนี้ อยากที่จะบอกรักใคร ก็สามารถเอาเพลงนี้บอกรักคนนั้นได้"

 

 

    เล่าถึงการทำงานของเพลงนี้หน่อย
    "อยากจะบอกว่าเพลงนี้ เริ่มจากตัวผม คือเริ่มจากการคุยกันของผมกับพี่เชนก่อน และค่อยไปคุยกับโปรดิวเซอร์หลักว่าเราอยากได้แนวเพลงแบบไหน อยากได้เนื้อหาประมาณนี้ ข้อความที่ผมอยากส่งต่อคืออะไร อยากถ่ายทอดไปแบบไหน ก็เล่าให้ทางพี่โปรดิวเซอร์และทีมงานฟัง สิ่งที่เสริมมาคือเรื่องของการแร็พ เราบอกเลยว่าอยากได้แร็พ เพื่อใส่ความเป็นเราเข้าไปอีก ผมมีการช่วยในการปรับท่อนแร็พ ใส่ลูกอ้อน"
    ชอบแร็พเหรอ
    "ใช่ๆ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เด็กๆ ชอบดูแร็พ ทั้งต่างประเทศและไทย อย่างไทยก็มีพี่ๆ ไอดอลหลายๆ คน ทั้งพี่ๆ ไทยเทเนียม เซ้าท์ไซด์ภูเก็ต หรือพี่โจอี้ บอย เราดูแร้พแล้วเรารู้สึกว่าเราชอบ ก็เลยหยิบตรงนี้ที่เราชอบมาทำ เลยใส่ลงในเพลงของเราให้มากที่สุด"

 

 

 

 

 

    เพลงนี้จะเรียกว่าเป็นตัวเซ้นต์ 100 เปอร์เซ็นต์
    "เป็นส่วนหนึ่งในตัวผมดีกว่า เพลงนี้สิ่งที่ผมอยากให้ทุกๆ คนได้เห็นคือความรัก อย่างที่บอกว่า เพลงนี้เราร้องจากความรัก เพื่อส่งไปถึงคนที่เรารัก มันเป็นความรักที่เรามอบให้ เลยอยากส่งผ่านความรักไปกับเพลงนี้ เพลงนี้มันคือความรักที่เกิดขึ้นจากการทำงาน ผมรักที่จะทำงาน รักที่จะแสดง ผมรักที่จะร้องเพลง รักที่จะโชว์ ทำให้วันนี้เราเกิดเพลงนี้ เกิดโชว์นี้ขึ้นมา เพื่อที่จะถ่ายทอดความรัก"

 

    จะปล่อยเพลงนี้อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่
    "วันที่ 14 กรกฎาคม ทุกช่องทางเลย ทางแอพลิเคชั่นต่างๆ และปล่อยเอ็มวีในยูทูบด้วย และก็มีเดบิวส์เสตรทของพวกเรา (ทำไมใช่คำว่าพวกเราอ่ะ) คือในครั้งนี้จะเป็นการโชว์ของผมและของในสังกัด เพราะผลงานนี้ถือเป็นผลงานของสังกัดด้วยเลยใช่คำว่าพวกเรา ถึงเพลงนี้จะเป็นซิงเกิ้ลเดี่ยวของผม แต่เพลงนี้จะเกิดขึ้นไม่ใช่เป็นของผมคนเดียว โปรดิวเซอร์ และทีมงานฝ่ายต่างๆ ทีมผลิตที่มาช่วยๆ กัน เลยขอใช้คำว่าพวกเรา รวมถึงสังกัดของเรา ไอดอลแฟลตอรี่ ที่เรามานั่งคุยกัน และมีพี่ๆ หลายคนที่เราเคาระและเคยร่วมงานด้วย ก็มาช่วยในเพลงนี้ด้วย เอาจริงๆ เพลงนี้เหมือนเป็นเพลงครอบครัวเบาๆ"

 

 

 

 

 

 

    อยากที่จะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองเลยไหม
    "เรามาลุ้นกระแสเพลงนี้ก่อน (หัวเราะ) ถ้าเพลงนี้กระแสดี ก็อยากที่จะทำอีกหลายๆ เพลง ส่วนเรื่องที่ว่าจะทำเป็นอัลบั้ม ก็ฝันอยากจะทำนะ (ยิ้ม) แต่แพลนของเพลงนี้ เรามีแพลนเอาไว้ว่าจะทำเป็นเวอร์ชั่นจีนด้วย ซึ่งเวอร์ชั่นจีนอยู่ในขั้นตอนของการแปลอยู่"

 

    ต้องไปเรียนภาษาจีนไหม
    "ใช่ ตั้งใจจะเรียนเลย เพื่อทำตรงนี้ ที่ตั้งใจจะทำเป็นเวอร์ชั่นจีน เพราะว่าเราได้รับกระแสตอบรับมาดีมาก ทั้งเพลงนี้ยังไม่ได้ถูกปล่อยออกมาเลย แต่มีการรีเควสมาว่าอยากได้เวอร์ชั่นภาษาจีนมาก เราเลยรู้สึกว่าโอเค ถ้าหลายๆ คนเรียกร้องมาขนาดนี้ แล้วอย่างที่บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงตอบแทนแฟนคลับอยู่แล้ว เราเลยตัดสินใจที่จะทำ แต่ในส่วนของเวอร์ชั่นจีนอาจจะปล่อยช้ากว่าวันที่ 14 ก.ค. เพราะว่ายังอยู่ในกระบวนการทำ ส่วนเรื่องเรียนภาษาจีนคือเราอยากที่จะเรียนอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเวลา แต่เพลงนี้เราจะไปเรียนเพื่อใช้ในการร้องเพลงเวอร์ชั่นจีนก่อน เพราะเราอยากได้คำที่ชัดเจน ไม่อยากที่จะเขียนเป็นคาราโอเกะ เพราะเราที่จะร้องด้วยสำเนียงที่ถูก เพื่อให้สื่อความหมายของเพลงออกไปอย่างชัดเจน"