'เซ้นต์' สร้างงานที่รัก เพื่อคนที่รัก 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  เรียกว่าเป็นดาราหนุ่มที่มาแรงจากซีรี่ส์วายยอดฮิต "บังเอิญรักฯ" จนหลายคนติดภาพ "เซ้นต์" ศุภพงษ์ ว่าต้องเล่นแต่ซีรี่ส์แนวนี้่ จนมีภาพหลุดออกจากกองละคร "ใบไม้ปลิดปลิว" ออกมาว่าหนุ่มเซ้นต์ได้ไปแสดงเรื่องดังกล่าว งานนี้ "บันเทิง คมชัดลึก" ได้มีโอกาสเจอหนุ่มเซ้นต์เลยขออัพเดทถึงเรื่องนี้
 

    "งานตอนนี้ก็อยู่ในช่วงเวิร์กช้อปซีรีส์เรื่อง วาย อาร์ ยู ก็เป็นซีรีส์วาย"
    กลัวไหมว่าแฟนๆ จะรับไม่ได้ที่เซ้นต์ไปเล่นคู่คนอื่น
    “เซ้นต์มองว่าการแสดงมันเป็นอารมณ์เหมือนศิลปะอย่างหนึ่ง เซ้นต์เปรียบตัวเองเหมือนกับว่าเราเป็นนักวาดรูป เราก็วาดเพื่อสร้างผลงานไปเรื่อยๆ เราก็อยากให้ทุกๆ คนชอบในผลงานของเรามากกว่า”

    เกณฑ์การรับงานของเซ้นต์เลือกยังไง เพราะดูเหมือนจะมีแต่ซีรีส์วาย
    “ไม่นะ เซ้นต์ชอบบทที่ท้าทาย ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นซีรีส์แบบไหน อย่างแรกเลยคือเราได้อ่านบท ได้อ่านเรื่องๆ นั้น พอได้อ่านแล้วเรารุ้สึกสนุก ก็จะอยากเล่น สิ่งแรกที่มองเลยคือว่าบทนั้นท้าทายเราไหม เล่นแล้วเราจะได้อะไรกลับมา ไมได้มองว่าต้องเป็นซีรีส์วาย หรือต้องเล่นกับใคร คือถ้าได้เล่นกับคนที่คุ้นเคยมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี จริงๆ ผมก็มีซีรีส์ที่ไม่ใช่วายนะ แต่ผมยังบอกในรายละเอียดมากไม่ได้ ขออุบไว้ก่อน”

    เล่นซีรี่ส์ที่ไม่ใช่วายกลัวคนไม่อินไหม เพราะคนจำภาพเราไปแล้ว
    “อย่างที่บอกว่าเซ้นต์โฟกัสไปที่ว่า ผมเป็นคนสร้างผลงาน เป็นคนแสดง หน้าที่ของผมคือทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด และอยากจะสร้างผลงานออกมาเรื่อยๆ ส่วนที่ว่าคนชมผลงานจะรู้สึกยังไงนั้น เป็นสิ่งที่เราไปบังคับไม่ได้ ไปบอกให้ใครชอบทุกผลงานเราไม่ได้ ถามว่ากลัวไหมว่าจะไม่เปรี้ยงเหมือนตอนเล่นวาย เอาจริงผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ไม่ได้คิดว่าจะต้องดังเท่าไหร่ เพราะผมรู้สึกในแต่ละผลงานมันก็ไม่เหมือนกัน คือถ้าเราเล่นแบบเดิมๆ ทำผลงานแบบเดิมๆ ผมว่าอันนั้นน่ากลัวกว่า”

    แต่ตอน “บังเอิญรักฯ” ดังมาก มันเป็นสิ่งที่กดดันเราไหมในเรื่องต่อๆ มา
    “ผมกดดันนะ แต่ไม่ได้กดดันว่าจะดังเท่าไหม ผมกดดันว่าจะทำแต่ละเรื่องออกมาดีไหมมากกว่า ในทุกๆ งานไม่ว่าจะเป็นอะไร ผมตั้งใจ เมื่อตั้งใจมากความกดดันก็ต้องตามมา ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติ และส่วนตัวเราเป็นคนตั้งมาตรฐานในทุกเรื่องไว้สูงอยู่แล้ว เราไม่รู้หรอกว่าเรื่องนี้จะดังไม่ดัง จะเปรี้ยงไม่เปรี้ยง แต่เราคิดไว้แต่ว่าทุกงานเราต้องทำให้เต็มที่ๆ สุด ผมรู้สึกว่าคนเรามองโฟกัสในการทำงานที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะต้องการชื่อเสียง แต่ผมจะไปโฟกัสตรงผลงานมากกว่า และความรู้สึกที่ได้ ผมจะพยายามบอกตัวเองเสมอว่า ผมสร้างผลงานมา ผมอยากที่จะให้ผลงานของผมสร้างความสุขให้กับทุกคน เพราะว่าทุกครั้งผมได้ความสุขจากทุกๆ คน ผมเลยอยากทำผลงานที่สร้างความสุขตอบแทนกลับทุกคน และทุกผลงานเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบ เพราะผมรักในการแสดง เพราะฉะนั้นทุกๆ งานจึงเกิดจากความรัก เรารักการแสดง เราจึงอยากสร้างผลงานที่เรารักออกมา เพื่อคนที่เรารัก ผมไม่นอยด์ที่ผลงานผมอาจจะไม่ดัง เพราะผมมองว่าผลงานของผมสร้างความสุขได้มากแค่ไหนมากกว่า การสร้างความสุขถึงแม้ว่าจะมีคนเดียวที่มีความสุขจากผลงานของผม แต่สำหรับผมแค่นั้นผมก็ดีใจแล้ว เพราะอย่างน้อยเราก็ได้สร้างความสุขให้กับคน”