คอลัมนิสต์

สวนทางปิยบุตร “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” ลุยยกเลิก 112 ไม่มีประนีประนอม

สวนทางปิยบุตร “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” ลุยยกเลิก 112 ไม่มีประนีประนอม

07 ธ.ค. 2564

ม็อบไม่ฝ่อ เจ้าพ่อตาสว่าง “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” เดินหน้าเคลื่อนทัพคณะราษฎรยกเลิก 112 ลงสู่ท้องถนน ปักธง 12 ธ.ค.64 สวนทางปิยบุตรที่เสนอให้มีการเจรจาประนีประนอม คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

ม็อบคนรุ่นใหม่หายไปไหน “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” เจ้าพ่อตาสว่าง ไม่สนคำถามในหมู่เพื่อนมิตร เดินหน้ากิจกรรมจ้วดจ้าดประกาศศึก 12 ธ.ค.2564

 

แม้ ปิยบุตร แสงกนกกุล เสนอการประนีประนอม แต่ “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” ยังเชื่อมั่นในพลังประชาชน เคลื่อนทัพคณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) ลงสู่ท้องถนน

 

“สมยศ พฤกษาเกษมสุข” ผู้จุดกระแสตาสว่าง ยกเลิก ม.112 มากว่า 10 ปี ไม่ขานรับแนวทางเจรจากับชนชั้นนำ

 

วันที่ 7 ธ.ค.2564 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาคม สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) นำโดย สมยศ พฤกษาเกษมสุข และยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ตัวแทนกลุ่มทะลุฟ้า, กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก

กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และกลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแถลงข่าวคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

 

พร้อมประกาศเดินหน้ารวบรวมรายชื่อ เพื่อเสนอยกเลิกกฎหมายมาตรา 112, เรียกร้องปล่อยตัวนักโทษการเมือง และยกระดับการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ ตลอดเดือนธันวาคมนี้

 

ก่อนหน้านั้น การเดินหน้ารวบรวมรายชื่อเสนอยกเลิก ม.112 มีคณะก้าวหน้าเข้าร่วมด้วย แต่วันนี้ มีแต่ สมยศ พฤกษาเกษมสุข และเครือข่ายนักกิจกรรมที่ชูธงปฏิรูปสถาบันฯ ที่เดินหน้าเคลื่อนไหวเสนอยกเลิก 112

 

‘จ้วดจ้าดประกาศศึก’

ที่มาของฉายาเจ้าพ่อตาสว่าง ของ “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” นั้นได้มาสมัยที่มีวิวาทะเรื่องแนวทางต่อสู้ระหว่างแกนนำ นปช. กับกลุ่มแดงอิสระ หรือปีกซ้ายของขบวนการเสื้อแดง โดยแกนนำปีกนี้ได้แก่ สุรชัย แซ่ด่าน และสมยศ พฤกษาเกษมสุข

ปี 2552 สุรชัย แซ่ด่าน, สุนัย จุลพงศธร และ สมยศ พฤกษาเกษมสุข เดินสายทำกิจกรรม ตาสว่างทั้งแผ่นดิน เปิดเวทีอภิปรายเรียกร้องให้แก้ไข ม.112 โดยเรียกตัวเองว่า กลุ่ม 3 ส.ตาสว่าง

 

ก่อนหน้าจะเป็นเจ้าพ่อตาสว่าง สมยศเป็นเอ็นจีโอสายแรงงานปีกก้าวหน้า และได้อิทธิพลทางความคิดสังคมนิยมระดับหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว สมยศ ชวนคนไทยมาเป็นคอมมิวนิสต์กันเถอะ โดย กล่าวถึงคนหนุ่มสาวเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งเคยมีความคิด ความเชื่อในอุดมการณ์คอมมิวนิสต์มาก่อน และก็พ่ายแพ้ไป

 

หลังรัฐไทยใช้กฎหมาย ม.112 ดำเนินการจับกุมคุมขังแกนนำเยาวชนคนรุ่นใหม่ สมยศ จึงกระโจนมาเคลื่อนไหวรวบรวมรายชื่อประชาชนเสนอกฎหมายยกเลิก ม.112 ร่วมกับเยาวชนรุ่นลูกรุ่นหลาน จึงก่อเกิดองค์กรที่ชื่อ คณะราษฎรยกเลิก 112(ครย.112)

 

สัปดาห์ที่แล้ว สมยศโพสต์เฟซบุ๊ค เชิญชวนประชาชนผนึกกำลังสนับสนุนปัจจัยเพื่อการเคลื่อนไหวจ้วดจ้าดประกาศศึก โดยปักธงทำกิจกรรมในวันที่ 12 ธ.ค.2564 พร้อมยกระดับการต่อสู้ในทุกรูปแบบ

 

‘ประนีประนอม’

เจ้าพ่อตาสว่าง “สมยศ พฤกษาเกษมสุข” เป็นนักปฏิบัติการ จึงเชี่ยวชาญยุทธวิธีบนท้องถนน ต่างจากปิยบุตร แสงกนกกุล ที่เป็นนักวิชาการซ้ายโรแมนติก

 

หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชัดว่าการปราศรัยของอานนท์ รุ้ง ไมค์ เป็นการล้มล้างการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสั่งห้ามกลุ่มองค์กรลักษณะเดียวกันเคลื่อนไหวอีกต่อไปในอนาคต

 

วันที่ 3 ธ.ค.2564 ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้แถลงความเห็นแย้งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีล้มล้างการปกครองฯ พร้อมมีข้อเสนอไปถึงทุกฝ่ายเพื่อการประนี ประนอม และหาทางออกร่วมกัน

 

“ผมคิดว่าจำเป็นต้องปรับวิธีการรณรงค์เรียกร้องเสียใหม่ ผมเข้าใจดีว่า ก่อนหน้านี้ข้อเรียกร้องหรือการชุมนุมมีท่าทีอีกแบบหนึ่ง แต่พอโดนอำนาจรัฐกดปราบ สถานการณ์และท่าทีก็เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ตรงนี้ไม่ใช่การห้าม ไม่ใช่การจำกัดเสรีภาพหรือถอย แต่เป็นเรื่องที่เราจะต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา การชุมนุมที่พุ่งสูงสุดเกิดขึ้นในสถานการณ์แบบหนึ่ง”

 

ข้างต้นนี้เป็นข้อเสนอถึงฝ่ายปฏิรูปสถาบันฯ เนื่องจากปิยบุตร มองว่า “..วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป กลไกรัฐบดขยี้เต็มที่ และข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบสนอง การเดินแบบเดิมต่อไปไม่ต่างกับการเดินหน้าเข้าหากำแพง”

 

ปิยบุตรจึงเสนอทางออกให้มีการพูดคุยกัน “...เราจำเป็นต้องพิจารณาว่า ทำอย่างไรให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยอมที่จะฟัง ยอมที่จะถกเถียงด้วยเหตุด้วยผล”

 

ขณะที่เจ้าพ่อตาสว่าง สมยศ พฤกษาเกษมสุข ยังยืนยันในการปักธงยกเลิก ม.112 ด้วยยุทธวิธีทุกรูปแบบ โดยไม่สนใจข้อวิจารณ์ที่ว่า การเดินแบบเดิม ไม่มีทางสำเร็จ